Tuesday, January 5, 2016

Apprendre le français: Les pronoms personnelles sujets ประธานสรรพนามบุคคล

ช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น la veille de Noël (Christmas Eve) หรือ Noël หรือ la Saint Sylvestre วันสิ้นปี หรือ le nouvel an ปีใหม่ คาดว่าสาว ๆ ทั้งหลายคงมีความสุขกับครอบครัวนะคะ   แต่ไม่ว่าจะเป็นวันไหน ๆ การเรียนรู้ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังไงซะเราก็ต้องลุกขึ้นมานั่งหาความรู้เพิ่มเติมใส่สมอง โดยเฉพาะเรื่องภาษาฝรั่งเศส ที่ยังไงก็สลัดมันไปไม่ได้

วันนี้มาดามขออธิบายเรื่องประธานสรรพนามบุคคล (เคยพูดถึงมาแล้วครั้งนึง แต่ขอฉายซ้ำและเพิ่มเติมเทคนิคการจำเล็กน้อย)

Les pronoms personnels sujets
         ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค เมื่อขึ้นต้นประโยค ต้องเขียนตัวใหญ่ Majuscule ทุกครั้ง และตามด้วยกริยาเสมอ จึงทำให้บางครั้งเราสามารถเรียกกลุ่มคำ สรรพนามเหล่านี้ว่า les pronoms de conjugaison เนื่องจากเราต้องผันกริยาที่ตามมาข้างหลังต้องผันตามประธานสรรพนามบุคคลเสมอ


 

หากใช้สรรพนามบุคคลตัวเดียว เดี่ยว ๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะรู้ว่าประธานสรรพนาม บุคคลตัวไหนจะผันกริยาอย่างไร แต่ถ้ามามากกว่า 1  หรือใช้คู่กับ les pronoms toniques เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เป็น ประธานตัวไหนกันแน่ ความสับสนเริ่ม มาเยือน หลักง่าย ๆ มีดังนี้ คือ ดูว่าพูดถึงใคร
·      พูดถึงตัวเอง ใช้ Je
ถ้ามี me ตามหลัง Je จะเป็นการผันกริยา pronominal ต้องผันตาม Je
Je me couche tard. ฉันเข้านอนดึก
มาจาก V. se coucher

ต้องลดรูปเป็น J’ เมื่ออยู่หน้ากริยาที่ขึ้นต้นด้วยสระ หรือ h muet
J’ai ฉันมี  V. avoir ขึ้นต้นด้วยสระ a
J’habite ฉันอาศัยอยู่ V. habiter เป็นกริยาที่ขึ้นต้นด้วย h muet
·      พูดถึงคนอื่น และตัวฉันเอง ใช้ Nous เพราะกลายเป็นเรา คือ ฉันและคนอื่น เป็นพหูพจน์ Nous ไม่ได้หมายความถึงแค่เราสองคนเท่านั้น แต่อาจจะหมายถึงเราหลาย ๆ คน ได้ด้วย




 
·      พูดกับคนที่อยู่ต่อหน้า  หรือคนที่เราพูดอยู่ด้วยในขณะนั้น Tu และ Vous
Tu ใช้เป็นการเรียกเพื่อน หรือ คนที่อายุน้อยกว่า
ในภาษาเขียนเราจะไม่ทำการลดรูปให้ Tu แต่ถ้าเป็นการพูดสามารถลดรูปได้
T’as faim. เธอหิว
T’as soif. เธอหิวน้ำ

Vous ใช้เรียกผู้ที่อาวุโสกว่า ผู้ที่เราเคารพ หรือเรียกแบบสุภาพ แบบทางการ
เวลาที่เราไม่รู้จักเขา และจะคุยกับคนนั้น ถ้าดูแล้วแก่กว่า ก็ใช้ Vous
ในบางครั้งคนที่เราพูดด้วยอาจจะบอกกับเราว่า “Tu peux me tutoyer.” กริยา se tutoyer คือ การเรียก tu นั่นเอง คำนาม คือ le tutoiement
แต่ถ้าบางคนที่เจ้ายศ เจ้าอย่าง อาจจะบอกกับเราให้เรียกเขาว่า “Vous”  เขาอาจจะพูดว่า “Pouvez-vous me vouvoyer, s’il vous plaît.”

สามารถสังเกตุ ได้ว่า Vous เป็น สรรพนามบุคคลที่ 2 เอกพจน์หรือพหูพจน์ได้ โดยการดูที่คำนาม  ถ้าคำนามเป็นพหูพจน์ คือ มี s ก็เป็น Vous พหูพจน์
Madame, êtes-vous satisfaite de nos services? ไม่ทราบว่าคุณพอใจในบริการของเราหรือไม่
อธิบาย : Vous ในที่นี้ เป็นเอกพจน์ ดูจาก Madame และเป็นการเรียกแบบสุภาพ

Vous êtes prêts? คุณพร้อมไหม?
อธิบาย : Vous ในที่นี้ เป็นพหูพจน์ ดูจาก prêts ถ้าเป็นเอกพจน์ที่ใช้แบบสุภาพ จะต้องไม่มีการเติม s ให้ prêt จะต้องเขียนว่า Vous êtes prêt? แทน
·      พูดถึงคนอื่น และตัวเธอ ใช้ Vous จากเธอ Tu เอกพจน์ เมื่อมีมากกว่า 1 จะกลายเป็นพหูพจน์ หรือพูดง่าย ๆ ว่า รูปพหูพจน์ของ Tu คือ Vous นั่นเอง






·      พูดถึงคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้า (ไม่ได้นินทา แต่เป็นการพูดถึง เอ่ยถึง แบบเล่าเรื่อง) หรือพูดถึงสิ่งอื่น ให้ใช้ Il, Elle, On โดยต้องดูเพศด้วย
Il  ใช้กับบุคคลที่พูดถึง ที่เป็นผู้ชาย เอกพจน์ คือ มีแค่คนเดียว แถมเป็นผู้ชาย
Elleใช้กับบุคคลที่พูดถึง ที่เป็นผู้หญิง เอกพจน์ คือ มีแค่คนเดียว 
พูดถึง   Mon mari => Il (สามีของฉัน เป็นคำนามเพศชาย เอกพจน์ จึงต้องใช้ประธานสรรพนามบุคคล ที่ 3 เอกพจน์ เพศชาย = Il)

พูดถึง Ma belle mère => Elle (แม่สามีของฉัน เป็นคำนามเพศหญิง เอกพจน์ ต้องใช้ประธานสรรพนามบุคคล ที่ 3 เอกพจน์ เพศหญิง = Elle)

เอ่ยถึงชื่อคน เช่น Paul => Il (พอล ชื่อผู้ชาย เป็นคำนามเพศชาย เอกพจน์ จึงต้องใช้ประธานสรรพนามบุคคล ที่ 3 เอกพจน์ เพศชาย = Il)
Pauline => Elle (พอลลีน ชื่อผู้หญิง เป็นคำนามเพศหญิง เอกพจน์ ต้องใช้ประธานสรรพนามบุคคล ที่ 3 เอกพจน์ เพศหญิง = Elle)
 

On เป็นการใช้กล่าวแบบทั่วๆ ไป หมายถึง คนเราทั่ว ๆ ไป หรือ กลุ่มคนที่ไม่ได้ระบุเพศ จำนวนอย่างชัดเจน ในกรณีนี้ On  ทำหน้าที่เป็น le pronom indéfini ที่สามารถแทนด้วย Tout le monde  หมายถึง ทุกคน หรือใช้แทน L’homme , les gens ผู้คน และไม่ต้องทำ accord สำหรับ adj และ p.p.
On pense que la terre est ronde. มนุษย์เราเชื่อว่าโลกกลม
หรือ Tout le monde pense que la terre est ronde.

นอกจากนี้ On ยังใช้แทน Nous ที่หมายถึง เรา และทำหน้าที่เป็น le pronom personnel เพียงแค่การใช้ On จะต้องใช้กริยาเอกพจน์สำหรับ สรรพนาม บุรุษที่ 3 และต้องทำ accord สำหรับ adj และ p.p. ด้วย
Mon mari et moi, on est enrhumés. สามีของฉันและตัวฉันเอง เราเป็นหวัด
อธิบาย : enrhumés เติม s เพราะในประโยคนี้ on แทนด้วย Mon mari et moi ซึ่งเป็น Nous แต่ On ต้องใช้กับกริยาที่ผันกับสรรพนามบุคคลบุรุษที่ 3 เท่านั้น

On ira au cinéma = Nous irons au cinéma.(เราจะไปดูหนัง)
ต้องระวังการใช้ใน les temps composés สำหรับกรณีที่ On ใช้แทน Nous คือ ต้องทำการ accord กับเมื่อใช้ V.être+participe passé (p.p.) จะต้องเติม s ให้ p.p. ด้วย เพราะเป็นพหูพจน์ 
On est allés au cinéma = Nous sommes allés au cinéma.

Ben et moi, on est mariés depuis déjà un ans.  (เบนและฉัน เราแต่งงานมา 1 ปีแล้ว) = nous sommes mariés depuis un ans.

·      พูดถึงคนหลายคน หรือหลายสิ่ง ที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้า ใช้ Ils, Elles ทั้งนี้ต้องสังเกตุเพศด้วย
ถ้าในประโยคมีผู้ชายแค่หนึ่งคน นอกนั้นเป็นผู้หญิง จะต้องใช้ Ils เนื่องจากภาษาฝรั่งเศสใช้หลักผู้ชายเป็นใหญ่
มาดามหวังว่าหลายคนคงพอจะเข้าใจเรื่องประธานสรรพนามบุคคลมากยิ่งขึ้น และคงไม่งงถ้ามีประธานมากกว่าหนึ่งในประโยคเดียวกัน  ครั้งหน้าเราค่อยมามึนกับสรรพนามบุคคลตัวอื่นกันค่ะ

หลายคนอยากทราบเทคนิคการเรียนภาษา ไม่ว่าจะเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส หรือภาษาใด ๆ คือ การฝึกฝน ตัวมาดามเองอ่านมากกว่าหนึ่งรอบ อ่านแล้ว short note อ่านไม่เข้าใจ ย้อนกลับไปอ่านอีก แล้วหาแบบฝึกหัดมาทำ เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้น ท่องอย่างเดียวไม่ช่วยให้เรานำไปใช้ได้ อ่านแล้วฝึกเขียน และทำแบบฝึกหัด มันจะช่วยให้เราจำได้ขึ้นใจ ถ้ายังไม่เข้าใจจุดไหน โน๊ตไว้แล้วเอาไปถามสามี หรือครู เพื่อจะได้ความกระจ่าง

สู้ ๆ นะคะ

No comments:

Post a Comment