Thursday, November 6, 2014

การหาที่เรียนภาษาฝรั่งเศส

การขอวีซ่าติดตามสามีมาอยู่ฝรั่งเศสได้นั้น ต้องมีการสอบภาษาฝรั่งเศสซึ่งเป็นกฎระเบียบบังคับที่ต้องกระทำกันตามที่กำหนดไว้โดยกระทรวงกลาโหม หรือ Ministère de l'intérieur françaisโดยมีหน่วยงานที่เรียกว่า OFII ชื่อเต็มของหน่วยงานนี้ คือ Office français de l'immigration et de l'intégration เป็นผู้ดูแล  ปัญหาที่พบคือสาวไทยส่วนใหญ่มักจะกลัวมากกับการสอบภาษานี้ เนื่องจากภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เป็นภาษาที่สอง หรือ second language อย่างภาษาอังกฤษที่ได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนในประเทศไทย และถือว่าภาษาอังกฤษเป็น international language ในทางกลับกัน ภาษาฝรั่งเศสถือเป็นภาษาต่างชาติที่สามารถเลือกเรียนได้ในชั้นมัธยมปลาย หรือสายศิลป์ นั่นเอง ดังนั้น ผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น คือ ผู้ที่เลือกเรียนสายศิลป์ภาษา หรือ ผู้ที่สนใจเรียนภาษาฝรั่งเศสโดยสมัครเรียนตามสถาบันสอนภาษาฝรั่งเศส นั่นเอง สำหรับมาดามเองเข้าทั้งสองกรณี คือ มาดามจบสายศิลป์ฝรั่งเศส และได้ลงเรียน ทบทวนภาษากับ Alliance française

สำหรับคนที่ต้องการหาที่เรียนภาษาฝรั่งเศสในกรุงเทพฯ สามารถเลือกที่เรียน ดังนี้
  1. Alliance française de Bangkok หรือ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ ซึ่งตั้งใกล้กับสถานทูตญี่ปุ่น ถนน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://afthailande.org/th/language-center/french/adults/extensive-package-2x15h-or-1x3hweek-30h10-weeks/ คอร์สวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 6,000 บาท
  2.  สถาบันภาษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ซึ่งจัดอบรมให้แก่บุคคลภายนอก เป็นการให้บริการแก่สังคมอย่างหนึ่ง ราคาเฉลี่ย/คอร์ส ประมาณ 3,800 บาท รวมค่าหนังสือ
ขอแนะนำว่าให้เตรียมตัวเรียนภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้นมาจากไทยเลยจะดีกว่าค่ะ เพราะจะได้สื่อสารง่าย ค่าเรียนก็ถูกกว่ามาก อีกอย่างเวลาเรียนภาษาฝรั่งเศสที่นี่ ครูไม่พูดไทยแน่นอน และครูก็ไม่พูดอังกฤษ ทำให้เราไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูสอนเท่าไหร่นะค่ะ

สำหรับคนที่อยู่ฝรั่งเศสแล้ว สามารถติดต่อสอบถามเรื่องสถานที่เรียนได้จาก OFII และ Mairie ในเขตที่อยู่ได้ หรือ alliance française ให้คลิกไปดูที่ nos tarifs ซึ่งจะบอกราคาคอร์สให้ ถ้าเป็น super intensif 80 ชั่วโมง ราคา 740 ยูโร ราคานี้สามารถซื้อตั๋วไป-กลับ ปารีส กรุงเทพฯ แบบบินตรงได้เลย

กรณีของมาดาม ทาง Mairie แนะนำให้ไปติดต่อเรียนภาษาฝรั่งเศสกับ Association Trampoline ที่ Molsheim ซึ่งเป็น non profit organization ซึ่งให้การช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเขียน อ่าน ภาษาฝรั่งเศส และคณิตศาสตร์

ทั้งนี้ ลุงได้ติดต่อนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ Trampoline  เพื่อพามาดามไปสัมภาษณ์สำหรับวัดระดับภาษาฝรั่งเศส  เจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์เป็นภาษาฝรั่งเศส ดังนี้
  • ให้เขียนชื่อ-นามสกุลของเรา คือ บอกให้เขียน Nom et prénom (สลับกับบ้านเราค่ะ ที่นี่จะเรียกนามสกุลก่อน) วัน เดือน ปีเกิด เบอร์โทรติดต่อ สัญชาติ
  •  เขียนว่าชอบทำอะไร เพื่อวัดทักษะการเขียนและความรู้ภาษาฝรั่งเศส มาดามไม่รู้จะเขียนอะไร คือ ภาษาฝรั่งเศสในตอนนี้ จำอะไรไม่ค่อยได้ เขียนได้แค่ present tense ง่าย ๆ เท่านั้น คำศัพท์ในหัวก็มีน้อยนิด เลยเขียนไปว่าเป็นคนไทย ชอบทาน escargots มาก และชอบนิตติ้ง
  • ให้อ่านเนื้อเรื่องสั้น ๆ ให้ฟัง เพื่อทดสอบทักษะการอ่าน 
  • ตอบคำถามจากเนื่อหาที่อ่าน เป็น choice ให้เลือก เพื่อทดสอบ comprehension การเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน
  • Dictation คือ เขียนคำตามที่เจ้าหน้าที่บอก และเขียนเป็นประโยคด้วย เพื่อวัดว่ามีความรู้เรื่อง grammar ความสอดคล้องของประธาน กิริยา กรรม ไหม ปรากฎว่ามาดามไม่ได้เขียน adj ให้สัมพันธ์กับนาม
  • อธิบายภาพ คือ มีภาพมาให้เราพูดว่าในภาพมีอะไร ใครทำอะไร ในภาพที่ได้มานั้นเป็นภาพในร้าน fast food มีคนสูบบุหรี่ และเด็กน้อยทำหน้าไม่ชอบ มาดามนึกคำว่า "ไม่ชอบ" เป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ ในหัวนึกออกแต่เยอรมัน ส่วนอีกภาพมีถังขยะ เศษกระดาษ วัยรุ่น มาดามไม่รู้ศัพท์คำว่า "ถังขยะ" เลยพูดว่า trash can อิอิ นึกอะไรไม่ออกก็ speak english โล้ดดดด หลังจากทดสอบมาหลายวัน นั่งดูทีวี มาเลยคพว่า poubelle ถังขยะ ทีก่อนหน้านี้ไม่มีให้ได้ยินนะ 555
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ Trampoline ก็สรุปให้ฟังว่ามาดามต้องเน้นเรียนเรื่องอะไรบ้าง และจะนัดครูสอนให้ไปสอนที่ mairie และยังย้ำว่าต้องพูดภาษาฝรั่งเศสในบ้านด้วย อย่าใช้แต่ภาษาอังกฤษ

หลังจากนั้น ประมาณเกือบสองอาทิตย์ ครูผู้สอนก็โทรติดต่อมาและนัดว่าจะเริ่มเรียนภาษาวันไหน และกี่โมง ครูสอนแบบตัวต่อตัวเลย แถมสอนฟรีอีกต่างหาก ถึงแม้ชั่วโมงเรียนจะน้อยหน่อย คือ ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีที่เรียนเลย ค่อยหาที่เรียนเพื่มอีกทีค่ะ

Vivre la France!


No comments:

Post a Comment