Wednesday, May 25, 2016

มาเรียนคำศัพท์เรื่องภัยพิบัติตามธรรมชาติกัน

มาดามได้รวบรวมศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับภัยพิบัติตามธรรมชาติ อย่างน้อยเวลาฟังข่าวก็จะได้ฟังออกและเข้าใจว่าเป็นรายงานข่าวเกี่ยวกับอะไรค่ะ
คำว่าภัยพิบัติตามธรรมชาติ ในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า les catastrophes naturelles
une catastrophe เป็นคำนาม เพศหญิง อ่านว่า อุน คาทาสทรอฟ หมายถึง ภัยพิบัติ หายนะ เทียบเท่ากับ disaster ในภาษาอังกฤษ และเราสามารถใช้คำที่เขียนใกล้เคียงกับ disaster คือ un désastre เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง เดซาสทร (ส่วนตัวเลย ขอเลือกใช้คำว่า une catastrophe เพราะง่ายต่อการออกเสียงมาก)


un incendie de forêt ไฟป่า

ภาวะแห้งแล้ง กันดาร คือ une sécheresse อ่านว่า อุน เซเชอเรซ มาจากคำว่า sec (adj เพศชาย) sèche (adj เพศหญิง) ที่หมายถึง แห้ง เช่น un shampoing pour cheveux secs แชมพูสำหรับผมแห้ง
Il fait sec. อากาศแห้ง
V. boire sec คือ ดื่มเพียวๆ ไม่ผสม เป็นสำนวน
Elle boit un whisky sec.
V. boire un cul sec ดื่มรวดเดียว
Cul sec! หมดแก้ว
V. être à sec เป็นสำนวน หมายถึง ถังแตก ไม่มีเงิน
Je suis à sec.
V. avoir le coeur sec แล้งน้ำใจ
Il a le coeur sec.
V. avoir la peau sèche มีผิวแห้ง
J'ai la peau sèche.

ส่วน séché (e) คือ การทำให้แห้ง หรือ ตากแห้ง
des piments rouges séchés พริกแดงแห้ง des petites crevettes séchées กุ้งแห้ง

แผ่นดินไหว une séisme อุน เซอิสเมอะ หรือ earthquake ในภาษาอังกฤษ
une coulée de boue โคลนถล่ม
des mouvements de terrain แผ่นดินเลื่อน

หิมะถล่ม une avalanche อุน อาวาล๊องช

น้ำท่วม une inondation อุน อังองดาซิอง คำนี้เขียนใกล้กับภาษาอังกฤษ คือ inundation เป็นศัพท์ทางการของคำว่า floodings ต่างกันตรงที่ภาษาฝรั่งเศสใช้ on แต่ภาษอังกฤษใช้ un
un orage อัง ออราช ฟ้าฝนคะนอง เป็นคำนามเพศชาย ถึงแม้จะลงท้ายด้วย e
une tempête อุน ตอมเป็ท พายุ หรือ storm ในภาษาอังกฤษ
une tempête de neige พายุหิมะ
une tempête de grêle พายุลูกเห็บ
une tempête de sable พายุทราย
une tempête de vent ลมพายุ
un Tsunami สีนามิ
un cyclone อัง ซีโคลน พายุเฮอริเคน เป็นคำนามเพศชาย ถึงจะลงท้ายด้วย e และเป็นคำในหมวด tempête ก็ตาม
une tornade อุน ทอรหนาด พายุทอร์นาโด

une éruption volcanique อุน เอรุพซิอง โวลคานิก ภูเขาไฟระเบิด
คำว่า une éruption หมายถึง การระเบิด หรือ une explosion และ V. exploser
un volcan คือ ภูเขาไฟ
une แoulée de lave ลาวาถล่ม
une lave ไม่มีรูปพหูพจน์ หมายถึง ลาวา
แต่ V. se laver หมายถึง อาบน้ำ ล้าง
พอทำเป็นคำนามประสม จะเป็นคำนามเพศชาย เช่น
un lave-linge เครื่องซักผ้า
un lave-vaisselle เครื่องล้างจาน

Monday, May 23, 2016

การใช้คำว่า Incident, Accident และ Incendie

วันนี้มาเรียนคำศัพท์กันค่ะ มาดามจัดให้เป็นกลุ่มเพื่อความ สะดวกในการจำ สมัยก่อนตอนมาดามเตรียมตัว Entrance ก็ท่องจำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ) เป็นกลุ่ม คือ จับคำที่เขียนใกล้เคียงกัน มาท่องจำ เทคนิคนี้ work ทีเดียว เลยขอมาประยุกต์ใช้กับภาษาฝรั่งเศสมบ้าง เผื่อจะรุ่งแบบภาษาอังกฤษ (แอบฝันหวานว่าสักวันจะนอนละเมอ parler français)
บางคนอาจจำสับสนระหว่างคำว่า incident และ accident มาดามเลยจัดมาให้ค่ะ



คำว่า un incident เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง อังซิด๊อง หมายถึง เหตุการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้น
un accident คำนี้ได้ยินบ่อย เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง อั๊คซิด๊อง หมายถึง อุบัติเหตุ เพราะเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน แบบ par hasard หรือ โดยบังเอิญ ที่ได้ยินบ่อย คือ un accident de voiture อุบัติเหตุรถชน
เราสามารถใช้คำว่า un accident de + คำนาม เพื่อบอกว่าเป็นอุบัติเหตุจากอะไร เช่น un accident de travail อุบัติเหตุจากการทำงาน un accident d'avion อุบัติเหตุเครื่องบิน เป็นต้น
คำว่า une incendie เขียนคล้าย un incident แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว une incendie เป็นคำนาม เพศหญิง อ่านว่า อุน อังซองดี หมายถึง ไฟไหม้ อัคคีภัย
ถ้าภาษาบ้าน ๆ คือ พูดแบบง่าย ๆ คือ Il y a un feu. มีไฟไหม้ ถ้าไฟไหม้บ้าน เรียกว่า un feu de maison ถ้าทางการหน่อย ก็ une incendie domestique
คำว่า un feu เป็นคำนามเพศชาย อ่านว่า อัง เฟอ หมายถึง ไฟ แต่ถ้าเปลวไฟ เรียกว่า une flamme อุน ฟลาม เป็นคำนามเพศหญิง คำนี้ต้องมี m 2 ตัว ถ้าเขียน flame อ่านว่า เฟลม จะเป็นการเขียนแบบภาษาอังกฤ


การดับไฟจะใช้ถังดับเพลิง หรือ un extincteur ส่วนกริยาดับไฟ คือ V. éteindre l'incendie
J'éteins l'incendie.
การกระจาย V. éteindre ใน le présent ให้ตัด ndre ออก แล้วเติมหาง ns, ns, nt, gnons, gnez, gnent
J'éteins                       Nous éteignons*

Tu éteins                    Vous éteignez*
Il/ Elle éteint              Ils/ Elles éteignent*
* สำหรับประธานพหูพจน์ Nous, Vous, Ils, Elles มีการเติม g หน้า n

Le passé composé จะใช้ V. avoir ช่วย => V. avoir éteint
J'ai éteint le feu.  Nous avons éteint le feu.
L'imparfait จะใช้ส่วนหัว éteign + หาง imparfait (ais, ais, ait, ions, iez, aient)
J'éteignais le feu. Nous éteignions le feu.
Le futur นำรูป infinitif มา แล้วตัด e ออก V. éteindre ตัด e ออก และเติมหาง futur (ai, as, a, ons, ez, ont)
J'éteindrai le feu. Nous éteindrons le feu.

หวังว่า สาว ๆ คงจำ un incident, un accident, une incendie และนำไปใช้ได้ถูกต้องนะคะ

Friday, May 20, 2016

เบอร์โทรฉุกเฉินในฝรั่งเศส

มาดามขอแชร์เบอร์โทรฉุกเฉินในฝรั่งเศส เผื่อหลายคนยังไม่ทราบว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะโทรเบอร์อะไรดี ไม่ใช่กด 191 แบบบ้านเรานะคะ ที่ฝรั่งเศสไม่มีเบอร์ 191 และก็ไม่ใช่ 911 เหมือนที่ USA
เรื่องของเรื่อง ตัวมาดามเองตอนมาอยู่ใหม่ ๆ จนถึงทุกวันนี้เองก็เถอะ ยังจะไม่ค่อยได้ โชคดีที่ครูสอนในห้อง ย้ำแล้วย้ำอีกหลายรอบ เลยจำได้แล้วว่ามีเลขเด็ด ๆ อะไรบ้าง  18 15 17

มาดูกันค่ะว่ามีเบอร์โทรฉุกเฉินอะไรบ้าง

สำหรับคนที่เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน หากมีเหตุฉุกเฉิน ก็กด 112 (Cent douze) อ่านว่า ซอง ดู๊ซ เป็นเบอร์ฉุกเฉินระหว่างประเทศในโซนทวีปยุโรป แน่นอนว่า ปลายสายจะ speak Enhlish ใส่ อิอิ

ถ้าเกิดไฟไหม้ incendie หรือ fuite de gaz แก๊สรั่ว หรือ odeur anormale ได้กลิ่นผิดปกติ หรือ  fumée เห็นควันไฟ ก็กดเลย 18 โทรหา les sapeurs-pompiers นักผจญเพลิง ที่นี่อะไร ๆ ก็กดเบอร์ 18 ไม่ใช่เพราะ les pompiers หุ่นแซ่บ แต่สามารถช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ว่าจะมี งูเข้าบ้าน แมวติดบนต้นไม้ เจ็บป่วย เพราะ les pompiers ทำสารพัด 555 จะว่าไปคล้าย ๆ กู้ภัยบ้านเราแหล่ะ

กด 15 SAMU เรียกกันติดปากว่า ซามู คำนี้ย่อมาจาก Service d'aide médicale urgente จะมากับรถ SAMU ถ้าในภาษาอังกฤษ หรือที่บ้านเรา คือ Ambulance รถพยาบาล โทรเรียกเมื่อเกิดป่วยฉุกเฉิน รุนแรง แบบหัวใจวาย ล้มน๊อคกับพื้นไม่ได้สติ มีอุบัติเหตุและมีคนบาดเจ็บ แต่ถ้าท้องเสียไม่นับค่ะ ครูในคลาสเล่าว่ามีมนุษย์ป้าฝรั่งเศสโทรเรียก SAMU มา เพราะหล่อนท้องเสีย (V. avoir une gastro) เนื่องจากหล่อนไม่อยากไปโรงพยาบาลเอง (ขอบอกว่าไปโรงพยาบาลที่ฝรั่งเศส ขึ้นชื่อมากในเรื่องรอนานนนนน)

กด 17 โทรหา La police หากมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย โดนทำร้าย ขโมย หรือ โจรขี้นบ้าน

ที่ฝรั่งเศส หากเจอคนประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับบาดเจ็บ ต้องโทรแจ้งโดยด่วน หากละเลย เพิกเฉย มีความผิดตามมาตรา Article 223-6 เรียกฐานความผิด La non-assistance à personne en danger โดยจะได้รับโทษจำคุก 5 ปี และค่าปรับ 75 000 ยูโร

Quiconque pouvant empêcher par son action immédiate, sans risque pour lui ou pour les tiers, soit un crime, soit un délit contre l'intégrité corporelle de la personne s'abstient volontairement de le faire est puni de cinq ans d'emprisonnement et de 75 000 euros d'amende.
Sera puni des mêmes peines quiconque s'abstient volontairement de porter à une personne en péril l'assistance que, sans risque pour lui ou pour les tiers, il pouvait lui prêter soit par son action personnelle, soit en provoquant un secours.

เวลาโทรเบอร์ฉุกเฉิน สิ่งที่ต้องแจ้ง มีดังนี้
  • Nature du problème ประเภทของปัญหา หรือเหตุฉุกเฉิน เช่น Il y a une collision de voitures. มีอุบัติเหตุรถชนกัน หรือ Il y a un feu. มีไฟไหม้ หรือ Une personne est blessée. มีคนบาดเจ็บ 1 คน
  • Risques éventuels ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น Il y a un risque d'asphyxie.  มีความเสียงที่จะสำลักควันไฟ
  • Localisation บอกพิกัด ตำแหน่งที่เกิดเหตุ คือ บอกเลขที่บ้าน ชื่อถนน หรือบอกว่าใกล้สถานที่สำคัญอะไร
  • Nombre จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
หวังว่าโพสนี้คงจะมีประโยชน์นะคะ


Monday, May 16, 2016

การแข่งขันรถประดิษฐ์ La course de caisse à savon

Bon lundi à tous!
วันจันทร์อีกแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรต่างจากวันอื่น ๆ เพราะไม่มีงานทำ ก็นอนอืดอยู่บ้านทุกวัน 555  วันนี้มาดามขอมาแชร์เรื่อง la course de caisse à savon พอดีมีแข่งขันรถประดิษฐ์เอง หรือ caisse à savon ที่เมือง Wasselonne ที่มาดามอยู่ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวมาดามออกไปดูมาเมื่อวันอาทิตย์ค่ะ สนุกดี ได้เห็นไอเดียในการตกแต่งรถ ในการประดิษฐ์รถของคนละแวกนี้

ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ตอนแรกไม่รู้จักเลยว่า une caisse à savon คืออะไร มาดามจินตนาการไปเองว่าเป็นรถแกะสลักจากสบู่ เพราะเอาเอาจากคำว่า savon มันต้องมีสบู่สิ 555 แต่ไม่ใช่ค่ะ  une caisse à savon หรือ une boîte à savon คือ รถประดิษฐ์ที่ไม่มีเครื่องยนตร์ ไม่มีมอเตอร์ มีแต่ล้อและตัวรถ โดยมีต้นกำเนิดที่สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1933

ทำไมถึงเรียกว่า une caisse à savon?
เพราะมาจากคำว่า soapbox ในภาษาอังกฤษ มาจากการนำลังไม้ที่ใส่สบู่ในสมัยก่อน นำมาดัดแปลงทำเป็นรถ
คำว่า สบู่ ในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า savon
ส่วนลังไม้ ก็คือ คำว่า caisse นั่นเอง คำนี้ ถ้าใครเคยอ่าน le petit prince ก็จะเจอ


ไม่รู้ว่ามีใครที่ชอบสับสนกับคำว่า course และ cours บ้าง มาดามนี่เป็นบ่อย เพราะติดใช้ภาษาอังกฤษ เพราะคำว่า course ในภาษาอังกฤษ และในภาษฝรั่งเศส มีความหมายต่างกัน เรียกว่า เป็น faux ami คือ เขียนเหมือนกันเด๊ะ ๆ แต่มีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนคำว่า course เลย
la course ในภาษาฝรั่งเศศ ไม่ได้หมายถึง วิชาหรือคลาสที่เรียน แต่หมายถึง การแข่งขัน การวิ่ง เช่น la course de caisse à savon คือ การแข่งรถประดิษฐ์  la course à pied การวิ่ง
ถ้าเป็นรูปพหูพจน์ les courses จะหมายถึง การซื้อของ ช้อปปิ้ง ที่เราใช้บ่อยมาก คือ faire les courses จ่ายตลาด ซื้อกับข้าว 
le cours ในภาษาฝรั่งเศส  (course ที่ไม่มี e ตามท้าย) คือ คลาสเรียน เช่น le cours de français คลาสภาษาฝรั่งเศส  le cours d'anglais คลาสภาษาอังกฤษ

มาดูหน้าตา caisse à savon กัน บางคันก็น่ารัก บางคันก็ออกแนวฮา ดู ๆ ไป ก็นึกถึงซาเล้งไงไม่รู้ 555
รถ bretzel แบบ auntie anne (ในภาษาอังกฤษ และเยอรมัน จะเรียกว่า pretzel ใช้ p แต่ในภาษาฝรั่งเศส จะใช้ b และหาทานได้ทั่วไปใน Alsace ค่ะ)

ถยก
รถโซฟา  un canapé et une lampe
รถเตียงนอน มีเท้าโผล่ด้วย 555  un lit avec les pieds
รถเชอร์รี่ une cerise
รถฟาร์มวัว la caisse à meuh (เสียง มอ มอ ของวัวฝรั่งเศส)
 คันนี้คล้าย ๆ ซาเล้งเลย

ขาดรถชักโครก ไม่งั้นคงได้ฮา และเรียกเสียงกรี้ดได้มากกว่านี้ 5555

Saturday, May 7, 2016

ผักหญ้าข้างทางทานได้ des plantes sauvages comestibles

ฤดูใบไม้ผลิ Le printemps  เป็นช่วงที่สนุกสำหรับการออกไปเดินเล่นในป่า หรือตามทุ่ง มาดามชื่นชมสาวไทยที่อยู่ต่างแดนมาก เพราะสาวไทยเก่ง มีความรู้รอบด้าน และเชี่ยวชาญเรื่องผักป่า สมุนไพร มากด้วย ที่แน่ ๆ ฝรั่งหลายคน ไม่ว่าจะฝรั่งเศส หรือชาวยุโรปแถบนี้หลายคน ไม่รู้เลยว่าผักหญ้าในป่าข้างทางสามารถรับประทานได้ ตัวมาดามเองไม่มีความรู้เรื่องพืชผักในป่าเลย พอเห็นสาว ๆ ออกไปเก็บมาทำอาหาร เลยอยากทำบ้าง เพราะเป็นกิจกรรมที่ดี ได้ออกกำลังกาย ได้ความรู้เรื่องสมุนไพรต่าง ๆ เรียกว่า la cueillette de Printemps การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ

ไม่ใช่ว่าคนไทยชอบของฟรีนะ (ใคร ๆ ก็ชอบของฟรี หรือจะเถียง อิอิ) แต่ชอบทานอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

คนฝรั่งเศสเรียก ผักหญ้า หรือ หญ้า ว่า des herbes ซึ่งถ้าเทียบกับภาษาอังกฤษ ก็คนละแนวเลย สมุนไพร กับหญ้านี่ 555 เรายังอาจเรียกแบบกว้าง ๆ ว่า les plantes ก็ได้
คำว่า comestible เป็น adj แปลว่า รับประทานได้ ถ้ารับประทานไม่ได้ จะใช้คำว่า immangeable หรือ incomestible
ผักหญ้าข้างทาง หรือ วัชพืช คนฝรั่งเศสจะเรียกว่า des mauvaises herbes ถ้าขึ้นในสวน ก็จะโดนถอนทิ้งค่ะ

มาทำความรู้จักพืชผักข้างทางที่สามารถรับประทานได้กันเถอะ
ดอกสีเหลืองที่ขึ้นตามข้างทาง ตามทุ่ง เรียกว่า le pissenlit อ่านว่า พิซซองลี ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า dandilion อ่านว่า แดนดิไลออน  เราสามารถเก็บดอก pissenlit มาทำน้ำผึ้งเทียมทานได้ค่ะ จะใช้แค่ส่วนเกสรหรือกลีบดอกสีเหลืองเท่านั้น เพราะส่วนใบเขียวจะมีรสขม น้ำผึ้งที่ได้จะออกเป็น gelée  แต่ต้องเติม pectine เข้าไปด้วย ไม่งั้นต้มออกมาก็ trop liquide หรือเหลว
ตอนที่ยังไม่ออกดอก สามารถนำใบของ pissenlit มาทำสลัดทานได้ค่ะ ถ้าต้นที่ออกดอกแล้ว จะไม่นำมาทานเพราะจอมีรสขม

หน้าตาน้ำผึ้งเทียมจากดอก pissenlit  ที่มาดามทำ (inspired มาจากโพสในเฟสของคุณ Petite Fleur) มาดามก็ไปค้นหาสูตรมา แต่ไม่ได้ค้นลึกมาก เลยไม่รู้ว่าต้องเติมสาร pectine ลงไปจะได้ไม่เหลวเป็นน้ำ ในเมื่อต้มแล้วก็นำมาใช้ชงน้ำทานได้ ใส่เลม่อน le citron ลงไป เติมเมล็ดเชียลงไปหน่อย น้ำแข็งด้วย สดชื่นดีค่ะ
สำหรับเด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ ก็ชอบเป่าเจ้า pissenlit ให้ปลิวไปตามสายลม ส่วนนี้ทานไม่ได้นะคะ

ต่อไปก็ใบกระเทียมป่า ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า l'ail des ours เพราะหลังจากที่หมีจำศีล พอตื่นมาในช่วง le printemps ก็ออกมาทานใบกระเทียมป่าเลย เพราะขึ้นทั่วไปตอนช่วง le printemps นี่ละ ทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำซอสเพสโต้ la sauce pesto หรือจะผัดไฟแดงแบบไทย ๆ 
ตอนเก็บต้องสังเกตุให้ดีนะคะ เพราะใบมีลักษณะคล้ายกับ muguet มาก  ต่างกันที่ l'ail des ours ใบจะบางกว่า และมีกลิ่นกระเทียม ส่วนดอกจะเป็นพุ่ม ๆสีขาว กลีบเรียวเล็ก แต่ดอก muguet จะเป็นพวง เหมือนกระพวนน้อย ๆ ซึ่งทานไม่ได้ ทานแล้วตายสถานเดียว

 ผักเสี้ยนฝรั่ง หรือ Alliaire ในภาษาฝรั่งเศส หน้าตาแบบนี้ค่ะ ลำต้นจะไม่มีขน ที่มาดามไปเก็บนี่ขึ้นอยู่กลางดงต้นตำแยฝรั่งเลย เด็ดไปก็คันไป
 
ต้นตำแยฝรั่ง หรือจะเรียก หมาหมุ่ย ก็แล้วแต่ คนฝรั่งเศสเรียกว่า ortieโดนทีคันแดง ไปหลายชั่วโมง ถ้าแพ้หนักก็คันเป็นผื่นแดงข้ามวันกันทีเดียว ถึงจะคันยังไง ก็ทานได้ แค่ต้องสวมถุงมือตอนเก็บ ใส่ยีนหนา ๆ ขายาว ไม่เอาแบบเกงยีนขาดนะ ไม่งั้นโดนใบหน่อยนึงก็ร้องจ๊ากเลย คนที่นี่ชอบเก็บมาทำสลัดผักทาน หรือไม่ก็ต้มนำ้อาบ เพราะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดี
มาดามขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ  A bientôt!

Tuesday, May 3, 2016

เรียนรู้ศัพท์และสำนวนการเข้าห้องสุขา (les toilettes)

วีคก่อนมาดามได้อัพเรื่องคำศัพท์และกริยาการใช้ห้องน้ำ หรือ Dans la salle de bains ไปแล้ว วันนี้ก็ขอมาต่อกันด้วยเรื่องการเข้าห้องน้ำ หรือ ห้องส้วม

คำว่า "ห้องน้ำ" ในภาษาฝรั่งเศส มีทั้งห้องอาบน้ำ คือ la salle de bains และอีกห้อง คือ ห้องส้วม หรือ des toilettes ห้องส้วม หรือสุขา เป็นคำนามเพศหญิง และต้องใช้ในรูปพหูพจน์เสมอ
 ถ้ายังเป็นนักเรียน ตัวน้อย ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ เราต้องขออนุญาตคุณครู ว่า "Est-ce que je peux aller aux toilettes?"

V. aller à ไปที่ พอใช้กับคำนามพหูพจน์ จะเปลี่ยน à les เป็น aux ซึ่งเป็นการลดรูป
V. aller aux toilettes ไปห้องน้ำ
 ส้วมก็มีหลายแบบ ชักโครก les toilettes à chasse d'eau หรือ ส้วมคอห่าน แบบนั่งยอง ๆ อันนี้เรียกว่า les toilettes à la turque หรือ les toilettes turques เพราะที่ตุรกีใช้ส้วมแบบนี้กัน เราจะพบส้วมแบบนี้เวลาใช้บริการส้วมสาธารณะ les toilettes publiques แบบมาดามที่เจอที่ Cancale มาดามนี่เหวอเลย ปวดฉี่มาก แต่ไม่อยากใช้ 555 ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น ห้องน้ำในสนามบินนาริตะ เวลาที่ลงจากเครื่องบินแล้ว ก็จะเจอส้วมนั่งยองแบบนี้ค่ะ เล่นเอาฉี่ไม่ถูกเลย ไม่ใช่กลัวลุกไม่ขึ้น เพราะอ้วน แต่กลัวฉี่พุ่ง เลอเทอะ 5555

 คำว่ากดชักโครก ใช้กริยา V. tirer la chasse (à d'eau) ปกติ V. tirer หมายถึง ดึง ซึ่งจะพบป้าย TIREZ ดึง และ POUSSEZ ผลัก มาจาก V. pousser ที่ประตูห้าง หรือประตูสำนักงานต่างๆ

 การถามหาห้องน้ำในภาษาฝรั่งเศส จะถามว่าอย่างไร
Où sont les toilettes?  Où คือ คำที่ใช้ถามว่า ที่ไหน เทียบเท่า Where ในภาษาอังกฤษ
ใช้ sont (V.être) เพราะ les toilettes เป็นพหูพจน์
 การเข้าห้องน้ำ ก็ควรรู้จักมารยาทด้วย คือ ถ้าเราเป็นแขกไปทานข้าวบ้านคนอื่น ก็ไม่ควรลุกไปเข้าห้องน้ำระหว่างรับประทานอาหาร มันไม่สุภาพ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพูดแบบอ้อม ๆ  เนื่องจากคนฝรั่งเศสไม่ชอบให้พูดโต้ง ๆ ตรง ๆ ชอบอะไรที่เป็นสำบัดสำนวนมาก ดังนั้น การจะบอกว่าไปเข้าห้องน้ำ จึงมีสำนวนให้เลือกใช้มากมาย
 การนั่งส้วม โดยเฉพาะการนั่งชักโครก ก็มีสำนวนที่น่าจำ คือ V. être sur le trône  เปรียบเหมือนนั่งบัลลังค์ราชา 5555
การนั่งส้วม ก็มีกริยาเฉพาะ คือ จะนั่งชักโครก V. s'asseoir ซึ่งผันไม่เหมือนชาวบ้าน เป็นกริยาผันไม่ปกติ ส่วนการนั่งยอง ๆ  คือ V. s'accroupir ซึ่งผันแบบกริยาในกลุ่มที่ 2 ที่ลงท้ายด้วย -ir แบบ V. choisir คือ จะผัน/ลงท้ายด้วย is, is, it, issons, issez, issent

สำนวนที่ใช้บอกว่าทำภารกิจหนักเบาในห้องน้ำ มีให้เลือกมากมาย มาดามก็ยังติดพูดแบบภาษาเด็กน้อย faire pipi, faire caca นี่ล่ะ ก็เรียนมาตั้งแต่ตอน มอปลาย ยังจำได้ 555 
ภาษาฝรั่งเศส ก็เหมือนภาษาไทยและภาษษอังกฤษ คือ มีดีกรี หรือ ระดับของคำ ว่าสุภาพ ทางการ ไม่ทางการ ภาษาพูด และแสลง  ก็ควรเลือกใช้ เลือกพูดให้ถูกต้องกับกาลเทศะ เด้อ



 มาดูสำนวนที่บอกว่า ไปอึ ไปฉี่ กัน ตอนทำสรุปนี่ มาดามก็ขำไปหลายตลบ คือ คนฝรั่งเศสก็เข้าใจเปรียบเทียบ ก็ไม่ต่างจากคนไทย อะไรที่เกี่ยวกับ อึ ก็มาแนวเหลือง ๆ หรือ ก้อน ๆ ส่วนฉี่ ก็อะไรที่เกี่ยวกับน้ำ

คราวนี้ ถ้าปวดอึ จะพูดว่าไง มีทั้งแบบปวดเตือน และใกล้จะออกแล้ว อิอิ
เน้นอีกรอบ คำว่า ห้องส้วม ในภาษาฝรั่งเศส "les toilettes" จะต้องใช้รูปพหูพจน์เสมอ
มาดูป้ายต่าง ๆ กัน จริง ๆ ก็สากลนะ คือ ดูรูปผู้ชาย ผู้หญิง เอาได้ แต่อยากให้จดจำศัพท์ไปใช้ เลยลงให้อ่านนะคะ

 ศัพท์ในห้องน้ำ กลับมาอีกรอบ

พอดีมาดามเรียนไปวีคที่แล้ว คนสอนบอกว่า คำว่า กระจก สามารถใช้คำว่า un miroir และ une glace ได้ แต่ในบางครั้ง la glace ที่หมายถึง น้ำแข็ง เราก็ไม่สามารถมองส่อง สะท้อนได้ เหมือนกระจกส่องหน้าแบบ un miroir  แถมคำว่า la glace มีได้หลายความหมาย ทั้งไอษครีม ทั้งน้ำแข็ง ก็ต้องฟังคำในประโยคกันให้ดี ๆ ค่ะ


 คำว่า กระดาษทิชชู่ หรือ ทิชชู่ แบบที่เราเรียกกันติดปาก ในภาษาฝรั่งเศสจะไม่เรียกว่า ทิชชู่ Tissu แต่เรียกว่า un papier toilette คือ กระดาษชำระ ส่วนคำว่า Tissu หมายถึง ผ้า

 คำว่า une serveitte ก็มีหลายคำ แยกตามประเภทการใช้ เช่น ผ้าขนหนูใช้ในห้องน้ำ เรียกว่า une serviette de bain แต่ถ้าไปชายทะเล ใช้เป็นผ้าปูชายหาด จะเรียกว่า une serviette de plage ถ้าใช้บนโตํะอาหาร ไว้สำหรับเช็ดปาก เรียกว่า une serviette de table



 ท้ายสุด มาดามไปหาคำที่ใช้เรียกภาชนะต่าง ๆ ในห้องน้ำแบบไทย แบบบ้าน ๆ มันน่าสนใจดีค่ะ