Saturday, December 31, 2016

Des mots d'images: Workshop เขียนภาษาฝรั่งเศสด้วยภาพ

ห่างหายไปนานกับ  blogger เลย มาดามเลยขอถือโอกาสมาส่งท้ายปีเก่า ปี 2016 ที่มีแต่การสูญเสียบุคคลสำคัญไปหลายคน ปีที่แสนโศกเศร้า ขออำลาเลยค่ะ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้มาดามจะมาพูดถึง Atelier de photo ที่มาดามได้เข้าร่วมทำกิจกรรมกับสาว ๆ คนอื่นที่เรียนภาษาฝรั่งเศสด้วยกันที่ Plurielles Strasbourg ค่ะ
คำว่า Atelier ก็คือ Workshop นั่นเอง แต่ Atelier de photo นี้มันน่าสนใจอย่างไร มันไม่ใช่แค่การเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพ แต่มันยังเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ที่จะนำภาพที่เราถ่ายไว้ มาเรียงร้อย หรือวางเรียงกันให้เกิดประโยค หรือการเขียนประโยคด้วยภาพ (ไร้ตัวหนังสือ) เพื่อสื่อสารให้คนที่มองภาพ
นิ่ง หรือ คลิป ได้เข้าใจว่าเราต้องการสื่ออะไร
มาดามได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2016 ค่ะ หลายคนไม่ยอมมาร่วมทำกิจกรรม เพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งภาษษฝรั่งเศส มาดามเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่อยากทำกิจกรรมที่นอกเหนือจากตำรา ที่ไม่ใช่แค่เรียนแกรมม่าค่ะ
เอาง่าย ๆ คำว่า เลนส์กล้อง มาดามก็เรียก เลนส์ 555 ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสเขาจะเรียกวา un objectif แต่ถ้าเป็นเลนส์สายตา จะเรียกว่า des lentilles ค่ะ แถมคำว่ากล้อง มาดามเองก็เรียกจนติดปากว่า camera แต่ที่ฝรั่งเศส เขาเรียกว่า un appereil photo ถ้าเราใช้คำว่า camera เขาจะเข้าใจว่าเป็นกล้องวีดีโอค่ะ
การถ่ายภาพ เราสามารถเลือกใช้กริยา หรือ สำนวนว่า V. prendre une photo หรือ des photos ก็ว่าไป หรือจะนำคำว่า photo ที่ทำเป็นกริยาแล้ว คือ V.photographier มาใช้เลยก็ได้ ผันง่ายกว่า V.prendre เพราะ V.photographier ลงท้ายด้วย -er เป็นกริยากลุ่ม 1 ก็ตัด er ทิ้ง เติมหาง e,es,e,ons,ez,ent ไปตามประธานเลยค่ะ เช่น
-Je photographe des fleurs. ฉันถ่ายรูปดอกไม้ต่างๆ
-Je prends des photos de fleurs. ฉันถ่ายรูปดอกไม้ต่างๆ
ช่างภาพ หรือ ตากล้องถ่ายหนัง ก็เรียกต่างกันนะคะ  ช่างภาพ ก็มาจากคำว่า photo และเติม graphe เข้าไป เป็น photographe เป็นได้ทั้งชายและหญิง เพราะลงท้าย e อยู่แล้ว ส่วนคนถ่ายวีดีโอ ถ่ายหนัง จะมาจากคำว่า un cadre หรือ เฟรม ก็จะเป็น un cadreur ถ้าเป็นผู้หญิง จะเป็น une cadreuse ค่ะ
ถ้าจะบอกว่า โพสท่าถ่ายรูป ก็เลือกเอาระหว่าง V.faire และ V.prendre ตามด้วย la pose ค่ะ (ลา โพส ออกเสียงเหมือนกับ la poste ไปรษณีย์ แต่เขียนต่างกันนะคะ)

นอกจากจะได้เรียนรู้ศัพท์และสำนวนเกี่ยวกับการถ่ายภาพแล้ว ยังได้เรียนรู้ประเภทของจุดโฟกัสในการถ่ายภาพอีกด้วย หรือ l'échelle des plans
คำว่า  un portrait อ่านว่า อัง พอรคเทร เขียนเหมือนภาษาอังกฤษเลย แต่ออกเสียงต่างกัน มาดามเองก็ พอร์ทเทรต ๆ ไปเรื่อย เพราะความชินปากนี่แหละค่ะ 5555 ไอ้ภาษาฝรั่งเศสนี่ ชอบไม่ออกเสียงตัวท้าย ดังนั้น le portrait พอรคเทร่ ไป อย่าไป เทรต นะคะ
ใน projet อ่านว่า โพรเช บ้านเราก็ โปรเจค ค่ะ เขาจะให้เราเขียนเล่าเรื่องราวในสมัยเด็กว่าเราเคยชอบทำอะไร แล้วให้บรรยายบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม ด้วยค่ะ มาดามก็เขียนเล่าเรื่องราวสมัยเด็กว่าชอบเล่นตุ๊กตากระดาษและตั้งชื่อให้ทุกตัว สมัยเด็กมาดามอาศัยอยู่ย่านสาทรค่ะ เป็นบ้านไม้เก่าๆ ชอบเล่นคนเดียว เพราะที่บ้านไม่ปล่อยออกไปเล่นข้างนอก มาดูงานเขียน (ที่แก้หลายรอบ) ของมาดามกันค่ะ เวลาเราจะเล่าเรื่องราวในอดีต เรามักจะใช้กาล l'imparfait ค่ะ
"Quand j'étais petite, j'aimais jouer avec mes poupées en papier dans le jardin chez moi à Bangkok et je les emportais toujours à l'école pour jouer avec mes amies. Je donnais un nom à chaque poupée, par exemple, "Bua Kli", c'est-à-dire "un lotus s'épanouit".
Mon jardin n'était pas grand. On n'avait pas d'herbe devant notre vielle maison. C'était un espace en béton. Mon grand-père a planté beaucoup de plantes vertes. Il y avait un grand arbre, c'était un goyavier. On pouvait manger les goyaves mais je ne les aimais pas trop, il y avait des vers. En plus, il y avait une balançoire où j'aimais m'asseoir et me coucher avec mes oreillers, je la couvrais avec une couette pour faire une cabane."

ก่อนปิดโปรเจค ก็ให้ถ่ายรูป และคลิปสั้น ๆ ว่า ตัวเองฝันอยากเป็นอะไร เรียกว่า le portrait rêvé กับ สิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่อยากเป็น คือ l'anti portrait (anti คือ ต่อต้าน)
มาดามเองเลยบอกไปว่า Je voudrais devenir une chef étoilée. ฉันอยากเป็นเชฟชื่อดังค่ะ
เวลาจะบอกว่าฝันอยากเป็นอะไร ก็ให้ใช้ V.vouloir ในกาล le conditionnel présent ค่ะ คือ voudrais
สิ่งที่ไม่อยากเป็น คือ Je ne veux pas être SDF. ฉันไม่ต้องการเป็นคนไร้บ้าน (คำว่า SDF ย่อมาจาก sans domicile fixe หรือ homeless ในภาษาอังกฤษ) ถ้าเราจะบอกว่าไม่ชอบความจน เกลียดความจน ก็บอกไปว่า Je déteste la pauvreté. (le pauvreté เป็นคำนามของ pauvre)

การถ่ายวีดีโแ เราจะพูดว่า "Silence! เงียบ! On tourne! กล้องเดิน! Action! แอคชั่น และจบด้วย Couper! คัท 
เอาเป็นว่าใครอยู่ใกล้ Strasbourg และอยากไปยลโฉมหน้าบานๆ ของมาดาม ก็ลองแวะไปชมนิทรรศการภาพถ่าย หรือ Des mots d'images ณ La médiathèque Olympe de Gouges ซึ่งภาพต่างๆ จะอยู่ด้านซ้ายของห้องสมุดค่ะ เป็นมุมเล็กๆ งานจะจัดไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2017 นี้ค่ะ

สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ Bonnes année 2017 à tous!




Sunday, October 2, 2016

Le planning familial 67 สมาคมวางแผนครอบครัวเขต 67 มีอะไรดีๆ ที่มากกว่าการวางแผนครอบครัว

หลังจากมาดามห่างหายไปนาน หายหน้าหายตาไปอบรมมาค่ะ เลยไม่มีเวลาว่างมาอัพ มาแชร์เรื่องราวที่น่าสนใจให้กับสาว ๆ เลย วันแรกที่ไปอบรมนี่เล่นเอาปวดหัวกับศัพท์ธุรกิจการเงิน พออบรมเสร็จก็ไข้หวัดถามหา เพราะอากาศเปลี่ยน แถมพักผ่อนน้อย ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ

มาเข้าหัวข้อที่จั่วหัวกันเลย Le Planning Familial 67 หรือ สมาคมวางแผนครอบครัว เขต 67  Bas-Rhin ไม่ได้มีดีแค่การวางแผนครอบครัวเท่านั้นนะคะ เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสตรีในเขต 67 (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://bas-rhin.planning-familial.org/  )  เรื่องของเรื่องมาดามได้มีโอกาสไปทำความรู้จักกับองค์กรนี้มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ เลยอยากมานำเสนอ เผื่อสาว ๆ เขต 67 ต้องการไปขอคำปรึกษา หรือ ขอความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว การทำร้ายร่างกาย การข่มขืน และอื่น ๆ

Le planning familial 67 เป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว คือ การคุมกำเนิด la contraception หรือ le contrôle de naissances (birth control ในภาษาอังกฤษ) และการทำแท้ง l'avortement  แต่ว่างานของ Le planning familial 67 ไม่ได้มีแค่เรื่องการคุมกำเนิด การทำแท้ง เท่านั้น ยังให้คำปรึกษาและหาทางช่วยเหลือกับสตรีที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ ไม่ว่าจะโดนข่มขืนจากคนร้าย หรือคนใกล้ชิด หรือสามี การโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือการป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ อย่าง SIDA หรือ เอดส์ AIDS  รวมถึงการถูกเลือกปฎิบัติ

สามารถเดินทางไปติดต่อได้ ตามวันเวลาดังรูปค่ะ
ที่อยู่ของ Le planning familial 67:  13, rue du 22 Novembre (entrée de l’immeuble rue Hannong)
67000 STRASBOURG สังเกตุว่าที่ต้นถนนจะมีร้าน Sushi Shop อยู่ค่ะ
กดกริ่งเรียก แล้วเปิดประตู เดินขึ้นบันไดไป  le planning familail 67 จะอยู่ที่ชั้น 2
หรือจะโทรติดต่อ

ดังนั้น ถ้าสะใภ้ที่อยู่เขต 67 คนไหน ได้รับการทำร้ายร่างกายและจิตใจจากสามี หรือคนในครอบครัว ก็รีบไปขอคำปรึกษากับ Le planning familial 67 ได้ค่ะ ถ้ากลัวว่าพูดคุยฝรั่งเศสไม่คล่อง ไม่รู้เรื่อง มาดามอาสาไปเป็นล่ามช่วยแปลให้ได้ค่ะ

ปัญหาการทำร้ายร่างกายและจิตใจ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขู่ ต่าง ๆ นานา อย่าไปทน อย่าไปเก็บไว้ในใจ ไม่ต้องกลัว สะใภ้ฝรั่งเศสมีสิทธิมากมายที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง และมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้เราจะเป็นคนต่างด้าวในฝรั่งเศส แต่กฎหมายฝรั่งเศสระบุชัดเจนว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน จึงไม่มีการเลือกปฎิบัติ หรือเลือกให้การช่วยเหลือ มาดามได้ทำเบอร์ฉุกเฉินให้ หากวันใดเรากลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว จะได้รู้ว่าควรโทรแจ้ง หรือติดต่อที่ไหนก่อน


มาดามขอสรุปขั้นตอนสำหรับกรณีที่สามีทำร้ายร่างกายสะใภ้ฯ

สำหรับสาว ๆ เขต 67 สามารถติอต่อขอความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำได้ ดังนี้
กรณีที่โดนไล่ออกจากบ้าน ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร ไม่มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ โทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ที่ 115 ค่ะ  พอวันรุ่งขึ้นให้รีบไปติดต่อ la mairie, CAF เพื่อหาที่อยู่ต่อไป หรือจะไปขอคำปรึกษากับ l'ADIL เพื่อช่วยหาที่อยู่ได้ค่ะ
สำหรับสาวเขต 67 สามารถขอความช่วยเหลือเรื่องที่พักได้ที่ Le Centre d'Hébergement et de Réinsertion Sociale "Flora Trista" ที่เบอร์ 03 88 35 25 69 ติดต่อได้ระหว่างวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 9 โมง - 6 โมงเย็น  ที่อยู่ 5 rue Sellénick 67000 STRASBOURG

มาดามขอเป็นกำลังใจให้สะใภ้ฯ ทุกคน ขอให้ทุกคน STRONG นะคะ

Monday, September 26, 2016

La semaine de l'illetrisme สัปดาห์การอ่านออกเขียนได้

มาดามได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน la semaine de l'illettrisme หรือ สัปดาห์การอ่านออก เขียนได้ จริงๆ คำว่า l'illettrisme หมายถึง การอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่เป็น แต่วัตถุประสงค์ของงาน คือ การส่งเสริมการอ่าน การเขียน ภาษาฝรั่งเศส สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการอ่าน การเขียน ตามวัตถุประสงค์หลักของสมาคม Trampoline Molsheim ค่ะ จึงเหมาะมากสำหรับสะใภ้อย่างเราๆ ที่ต้องการเรียนภาษาฝรั่งเศส แถมฟรีอีกต่างหาก ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีด้วย เพราะสมาคม Trampoline Molsheim เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ทำด้วยจิตอาสาช่วยเหลือ โดยจะมีอาสาสมัครมาสอนภาษาฝรั่งเศสให้ ส่วนมากเป็นคนที่เกษียรอายุการทำงานแล้วค่ะ

ตัวมาดามเองได้มีโอกาสเรียนกับ Trampoline Molsheim เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2014 (มาดามย้ายมาอยู่ฝรั่งเศสเดือนกรกฎาคม 2014 และ OFII ไม่ได้ให้เรียนฝรั่งเศส เลยต้องหาที่เรียน และโชคดีที่เจอ Trampoline Molsheim ค่ะ ทุกวันนี้เลยได้เรียนภาษาฝรั่งเศส เรียนรู้วัฒนธรรม ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ต้องขอขอบคุณ Trampoline Molsheim ที่ให้โอกาสดีๆ กับมาดาม

มาเข้าเรื่องกันค่ะ la semaine de l'illettrisme หรือ สัปดาห์ส่งเสริมการเขียนอ่านภาษาฝรั่งเศส แต่ถ้าดูจากความหมายของคำศัพท์ l'illettrisme จะหมายถึง มีปัญหาในการเขียน อ่าน  (มาดามเลยขอเรียกว่าสัปดาห์ส่งเสริมการเขียน อ่าน ภาษาฝรั่งเศสแทนค่ะ) งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 10 กันยายน 2016 ณ เมือง Molsheim ที่อาคาร Général Streicher หรือ บ้านพำนักของนายพล Streicher ในสมัยก่อน
มาดามได้เข้าร่วมงานในช่วงบ่ายวันอังคารค่ะ ไปชิมอาหารยูเครเนี่ยน และตุรกี
เมนูแรกเป็นอาหารแถบรัสเซีย ชื่อ Zrazi ทำมาจากมันฝรั่งบด ใส่ไส้ตับไก่และหัวหอมผัด
เมนูที่ 2 จากเพื่อนตุรกี มาสาธิตการทำ Dolma ที่ใช้ใบองุ่นห่อ (des feuilles de vigne farcies au riz) ไส้ข้าวปรุงรสด้วยเครื่องเทศตุรกี เมนูนี้มาดามชอบมาก แต่ปัญหาคือการหาใบองุ่นปลอดยาฆ่าแมลง จะให้ไปขโมยตามไร่องุ่นชาวบ้าน ก็เกรงว่าจะโดนจับเข้าตารางนะคะ เพื่อนเขามีไร่องุ่น เลยมีใบองุ่นมาทำเมนูนี้สบายๆ มาดูหน้าตากันค่ะ

สำหรับมาดามได้มีโอกาสเป็นตัวแทนคนไทยไปโชว์การทำอาหารไทยให้ต่างชาติดูและชิมค่ะ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2016 ช่วงเช้า เป็นวันอาหารเอเชีย คือ มีอาหารไทยและอาหารฝีมือสาวเกาหลีค่ะ 
มาดามโชว์เมนูยำส้มโอ หรือ ยำเกรฟฟรุต Salade de pomelo/ pamplemousse façon thaï และขนมปังหน้าไก่ Toasts à la viande (ตอนทำเสร็จใหม่ๆ จัดจานสวยงาม ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ เพราะรีบทำเวลา ไม่อยากกินเวลาของเพื่อนเกาหลีที่เขาจะทำเมนูต่อจากเรา)





ตัวมาดาม ครูสอนภาษาฝรั่งเศส และสามี ต่างปลาบปลื้มในตัวมาดามมากค่ะ (ขอยกยอตัวเองหน่อย 555) เพราะได้ลงหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถื่น DNA พอดีสามีครูฝากข้อความในมือถือสามีว่ามีข่าวของมาดามในหน้าหนังสือพิมพ์ มาดามเลยใช้สามีให้รีบออกไปซื้อเลย อิอิ
พาดหัวข่าวว่าเมนูต่อต้านการไม่รู้หนังสือ recettes contre l'illettrisme  ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสลงหนังสือพิมพ์ในฐานะคนไทย (ตัวอวบกลม) ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก ได้พิสูจน์ให้ต่างชาติเห็นว่าเรามีความพยายาม มีความตั้งใจที่จะเอาชนะปัญหาด้านภาษาต่างชาติได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ภาษาฝรั่งเศสจะยังไม่แข็งแรงมาก ถึงจะยังไม่คล่องแบบ couramment แต่ก็สามารถสื่อสารได้ โชว์การทำอาหารและบอกสูตรอาหารได้


ท้ายนี้ มาดามขอเป็นตัวอย่างดีๆ ให้สาวๆ ได้ทำตาม พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ พยายามร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเมือง หรือละแวกใกล้ ๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นไทย และเพื่อฝึกฝนภาษาฝรั่งเศสไปในตัวค่ะ  เรื่องภาษา จงคิดบวก อย่าคิดลบ หรืออย่าไปคิดว่ามันยาก ให้คิดว่าภาษาเรียนแล้วสนุก ตรงไหนที่ไม่ค่อยเข้าใจให้มองเป็นความท้าทาย ที่เราต้องพยายามเอาชนะ แก้ปริศนาตรงนั้น โดยการขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ต้องอายที่จะถาม ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเราโง่ ถามแล้วได้ความรู้ ถามแล้วได้ความกระจ่าง ถามไปเลยค่ะ มาดามเป็นเจ้าหนูจำไมตลอดเวลา อิอิ สามียังบ่นว่าคำถามที่ยิงมานี่ แสนจะลึก ไม่มีใครสงสัย หรือถามแบบนี้เลย 555



Thursday, August 25, 2016

La canicule มาเรียนรู้จักการรับมือกับคลื่นความร้อนแบบฝรั่งเศสกัน

วีคนี้สาวๆ หลายคนคงจะได้ยินข่าวเรื่อง la canicule ลา คานิคูล ทุกวัน ถ้าคนไหนเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ คงไม่รู้จักคำว่า la canicule (นึกย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตัวมาดามเองก็ไม่เคยรู้จักคำนี้มาก่อนค่ะ ที่เคยเรียนมาเนิ่นนานก็แค่ il fait trop chaud! อิล เฟ โทร้ โช อากาศมันร้อนมาก อาจจะเพราะเมื่อ 20 กว่าปีก่อนยังไม่มีปัญหาโลกร้อน และคลื่นความร้อน)
มาดามขออธิบายความหมายแบบบ้าน ๆ (แบบเรียนรู้ศัพท์ฝรั่งเศส) ให้ฟังนะคะ ถ้าจะให้อธิบายแบบวิทยาศาสตร์นี่ ไม่สามารถจริงๆ ค่ะ

La canicule เป็นคำนามเพศหญิง หมายถึง คลื่นความร้อน หรือ une vague de chaleur très forte บ้านเราก็เรียกว่าคลื่นความร้อนสูง หรืออากาศร้อนจัด
La chaleur ลา ชาเลอ หมายถึง ความร้อน และหมายถึงเรื่องราวร้อนๆ เรื่องฮอต ๆ ก็ได้
une vague อุน ว๊าก หมายถึง คลื่น
fort (e) ฟอรท เป็นคำ adj ในที่นี้ทำหน้าที่ขยายคำนามเพศหญิง คือ la chaleur จึงต้องเติม e ให้ fort เป็น forte
มาดูว่าทางการฝรั่งเศสออกคำแนะนำในการรับมือกับอากาศร้อนจัดกันค่ะ
คงเคยได้ยินข่าวคนเสียชีวิตหลายคนในประเทศฝรั่งเศสโดยเฉพาะคนสูงอายุ เนื่องจากอากาศร้อนจัด หรือโดน heat stroke พอเราเห็นอุณหภูมิแล้วเทียบกับบ้านเรา ก็จะบอกว่าบ้านเราร้อนกว่ามาก ขอบอกว่าที่นี่ ที่ฝรั่งเศส คือ ยุโรป อากาศจะไม่ร้อนแบบบ้านเรา และสมัยก่อนก็อากาศไม่ได้ร้อนขนาดนี้ (เพราะ global warming หรือ réchauffement climatique (เรโชฟม้อง คลิมาติก) ในภาษาฝรั่งเศส นี่แหล่ะที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี) คนยุโรป คนฝรั่งเศสจะไม่เคยชินกับอากาศร้อนจัด ไม่เหมือนสาวไทยอย่างเราที่ทนร้อน ทนหนาวได้ 555
ที่นี่พอแตะ 30 ก็ร้อนแล้วค่ะ ร้อนแบบแห้งๆ  พอแตะ 37 นี่ก็ร้อนสุดๆ อากาศเท่ากรุงเทพฯเลย บางคนปรับตัวไม่ได้ ยิ่งคนแก่ คนสูงอายุที่ไม่มีใครดูแล ที่อยู่คนเดียว ก็อาจเป็นลมหน้ามืด ป่วยเป็นไข้ la malaise (ลา มาเลส) หรือมีอาการขาดน้ำได้ ที่เรียกว่า déshydratation (เดซิดราตาซิอ้ง) ดังนั้น ทางการฝรั่งเศสเลยต้องออกคำแนะนำให้ประชาชนทราบว่าควรทำตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับเจ้าความร้อนนี้
  • Boire régulièrement de l'eau ดื่มน้ำบ่อยๆ  หาน้ำเย็น ๆ ดับกระหายมาดื่ม des boissons fraîches หรือ des boissons rafraîchissantes  (เมื่อวานมาดามดูข่าว คุณตาบอกคนดูแลว่าดื่มน้ำเยอะมาก คือ boire à la mer ดื่มน้ำทะเล 555) ถ้าอยู่ไทย คงไปซื้อ pepsi ใส่น้ำแข็งเต็มถุง อิอิ หรือซื้อไอติม น้ำแข็งใสมากิน หรือจะเฉาก๊วย พูดไปก็อยากกินมากกกกกก
  • Mouiller sons corps et se ventiler ให้พรมน้ำที่ตัว และพัดลม  คำว่าพัดลม คือ un ventilateur อัง วองทิลาเตอร  พูดง่าย ๆ คือ ทำตัวเองให้สดชื่น ด้วยการพรม หรือ ฉีดน้ำบนร่างกาย ร้อนมากก็วิ่งไปอาบน้ำเย็นค่ะ มาดามก็อาบบ่อยมาก อิอิ แอบคิดถึงบ้านเรา คงไปตักน้ำอาบแล้ว
  • Manger en quantité suffisante กินในปริมาณที่เพียงพอ เวลาอากาศร้อน มันทำให้เราไม่ค่อยอยากกินข้าว ไม่อยากกินอะไรเยอะ (ดื่มแต่น้ำ เลยอิ่ม)
  • Maintenir sa maison au frais: fermer les volets le jour คงความเย็นในบ้านไว้ เช่น ปิดม่าน ปิดหน้าต่างไม้ ไม่ให้แสงแดดส่อง
  • Ne pas boire d'alcool ห้ามดื่มเหล้า แอลกอฮอล์ ก็อากาศร้อน ขืนดื่มเบียร์ ดื่มเหล้ากลางแดดเปรี้ยงๆ ก็คงมีหวูบคร้า
  • Donner et prendre de nouvelles de ses proches  ให้ติดต่อสอบถามข่าวคราวญาติสนิท คอยเช็คข่าว เพราะส่วนมาก แม่ย่า พ่อปู่ จะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเรา ก็ต้องโทรเช็ค คอยเตือนให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ให้อยู่ในที่ร่ม ในบ้าน ไม่ต้องฟิดมากเดี๋ยวเป็นลมเป็นแร้งไป ประมาณนี้
  • éviter les efforts physiques หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อมาก 
  • En cas de malaise, appeler le 15 กรณีป่วย เป็นไข้  หรือพบเห็นคนเป็นลม หน้ามืด ให้กดโทร 15 SAMU หรือรถพยาบาล
เมื่อวานอากาศร้อน มาดามปวดหัวมาก เลยต้องหายาทาน ยังไงช่วงนี้สาว ๆ ก็ดูแลตัวเองและครอบครัวด้วยนะคะ ครั้งหน้าจะมาอัพเดทประเด็นข่าวร้อนให้ฟังอีก เรียนภาษาจากข่าวก็ช่วยให้เรารู้จักคำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ

Tuesday, August 9, 2016

Soyez vigilants ระวังพวกแก๊งค์ต้มตุ๋น

มาดามกลับมาแล้วค่ะ หลังจากหายหน้าหายตาไปนานเป็นเดือน เพราะไปอบรมการสร้าง web page มาค่ะ อบรมก็มึน เพราะสับสน ไม่คุ้นกับคำสั่ง command ต่างๆ ที่เป็นภาษาฝรั่งเศส (มาดามจะมาเล่าให้ฟังครั้งหน้านะคะ) เอาเป็นว่าวันนี้อยากมาแชร์เรื่องแก๊ง Call center หรือ Ping Call ที่กำลังระบาดอย่างหนักในฝรั่งเศสค่ะ
พอดีมาดามได้รับเมล์มาจาก Pôle Emploi เรื่อง Soyez vigilants และได้ดูข่าวในทีวีเมื่อหลายวันก่อน โลกเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน ยิ่งสะใภ้ต่างด้าวอย่างเรา ๆ ภาษาฝรั่งเศสก็ไม่แตก จะทำยังไงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกต้มตุ๋น มาดูกันค่ะ

เราต้อง Soyez vigilants คือ ให้ระแวดระวังตัว อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า (ขนาดคนรู้จักกัน บางทีก็ไม่ควรไว้ใจมากเกินไปค่ะ)
-Soyez มาจาก V. être เป็นกริยาที่ผันกับประธาน Vous ในประโยค L'impératif
ในที่นี่ Vous พหูพจน์ ดูจาก vigilants ที่มี s เติมท้ายนั่นเอง
สำนวน คือ v.être vigilant (e)
ถ้าเราเห็นเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยม (un triangle) ที่มีเครื่องหมายตกใจอยู่ข้างใน (un point d'exclamation à l'intérieur) นั่นหมายถึง เตือนให้ระวัง
คำเตือนที่ Pôle Emploi ส่งมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อจ้างงานจากคนแปลกหน้า โดยเราต้องระวังไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญต่าง ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น วัน เดือน ปี เกิด หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น เพราะแก๊งค์ต้มตุ๋นสามารถนำข้อมูลของเราไปเปิดบัตรเครคิตแล้วรวดปรืดๆ ได้ ไม่ต่างจากไทยค่ะ
-Ne répondez pas aux propositions d'emploi qui vous demandent: ไม่ต้องตอบรับข้อเสนอการจ้างงานที่ขอให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้
 => d'appeler un numéro surtaxé ไม่ต้องโทรกลับเบอร์ที่คิดค่าบริการเพิ่ม
จะรู้ได้ไงว่าเบอร์นี้ โทรไปแล้วจะชาร์จเป็นนาที รายงานข่าวบอกว่าจะขึ่นต้นด้วยเบอร์ 08
เอาง่าย ๆ ไม่รู้จัก ไม่ต้องโทรกลับ ไม่งั้นจะเสียเงินค่าโทรศัพท์บานค่ะ
=> d'encaisser un chèque ห้ามเข้าเช็ค ฝากเช็คให้คนที่ไม่รู้จัก เพราะมีแนวโน้มว่าเป็นเช็คที่ขโมยมา
=> d'envoyer un RIB หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า  le RIB เลอ ริบ อันนี้ไม่ใช่ rib ชี่โครงหมู นะคะ แต่เป็นเอกสารสำคัญของบัญชีธนาคารของเรา มันคือ หน้า book bank บ้านเรานั่นเอง le RIB ย่อมาจาก le relevé d'identité bancaire
 ที่ฝรั่งเศสจะไม่มี book bank สวยๆ ให้แบบบ้านเรา คาดว่าคงลดต้นทุนค่ะ เจ้า le RIB นี่ต้อง log in เข้าเพจธนาคารที่เราไปเปิดไว้ แล้วเข้าบัญชี account เราค่ะ แล้วโหลดเพื่อพิมพ์ออกมา  เราจะไม่ให้ใครง่ายๆ นะคะ เพราะอาจโดนฉ้อโกงได้ง่ายๆ จำไว้ว่าถ้าไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างงานก่อน อย่าให้ le RIB ไปเด็ดขาด ยิ่งคนไม่รู้จักมาขอให้ส่งให้ ยิ่งไม่ควรให้ค่ะ

=> d'envoyer une pièce d'identité ห้ามส่งเอกสารสำคัญประจำตัว เช่น หน้าหนังสือเดินทาง สำเนาการ์ดเดอเซชู
=> de contacter une personne à l'étranger อย่าติดต่อกับคนไม่รู้จักที่อยู่ต่างประเทศ ง่าย ๆ คือ ไม่รู้จักกันดี ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปคุย เพราะอาจโดนหลอกลวงให้โอนเงินให้ต่างๆ นาๆ แบบที่พวก scammer ชอบทำค่ะ

คำศัพท์ที่น่าสนใจ
une fraude อุน ฟรอดเดอ หมายถึง ฉ้อกล
une arnaque อุน อารคนาค หมายถึง ต้มตุ๋น
un compte อัง ค้งเทอ หมายถึง บัญชี
numéro de compte หมายเลขบัญชี
v.ouvrir un compte เปิดบัญชี
v.compter นับ = count
v. compter sur  เชื่อใจ = count on
comptable นักบัญชี
Il est comptable. Elle est comptable.


Sunday, June 19, 2016

เอกสารที่ใช้ไปรับ carte de séjour

มาดามได้หนังสือแจ้งให้ไปรับการ์ดเดอเซชูที่ la Préfecture Strasbourg ในหนังสือแจ้งว่าสามารถมาขอรับ Carte de séjour ได้ตั้งแต่วันที่ 10 แต่จดหมายฉบับนี้มาถึงวันที่ 16 มิถุนายนได้ คือ มาล่าช้ากว่าที่ระบุในจดหมาย หรือ la convocation แถมเลยวันหมดอายุใน carte de séjour ที่ถืออยู่ด้วย แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถใช้ใบแทน หรือ  Récépissé ได้ ซึ่งมีอายุใช้งาน 3 เดือน ก็โล่งอกกันไปที่ได้รับจดหมายฉบับนี้เสียที กลัวว่าจดหมายจะหายไป หรือโดนน้ำพัดพาไปซะแล้ว 555

วันนี้มาดามขอนำหน้าตาหนังสือแจ้งฯ หรือ la convocation มาให้ดูนะคะ เพื่อสะใภ้ฝรั่งเศสจะได้ฝึกภาษาฝรั่งเศสไปด้วยในตัว มาเริ่มกันเลยค่ะ

มาดามขออธิบายเป็นท่อน ๆ นะคะ เพราะจะได้อ่านและเห็นชัด เริ่มกันที่ท่อนบน ที่จะขึ้นหัวจดหมายด้วย Marianne ซึ่งเป็นโลโก้ของภาครัฐนั่นเอง ตามด้วยชื่อ Préfet ในที่นี้ คือ Préfet du Bas-Rhin ส่วนด้านซ้ายระบุชื่อฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานออกการ์ดเดเซชู และเวลาทำการ 
ถัดมาด้านขวาเป็นชื่อ นามสกุล ผู้ขอต่อการ์ดเดอเซชู นามสกุลสามีในช่องของ EP ซึ่งย่อมาจาก épouse ที่หมายถึง คู่สมรส  จริง ๆ คู่สมรสชายจะใช้คำว่า époux คู่สมรสหญิง คือ épouse อย่างเรา ๆ นี่ คือ épouse  และต่อด้วยที่อยู่

หนังสือแจ้ง la convocation นี้ เดาว่าเป็นฟอร์มถาวร โดยระบบจะเรียกชื่อ filed ในส่วนของชื่อ นามสกุลของผู้ขอบัตรมาใส่ในส่วนบนขวา จึงไม่มีการระบุชื่อของผู้ขอในส่วน เรียน หรือ Madame ... แต่ใช้แบบไม่ระบุชื่อแทน คือ Madame, Monsieur, 

ในส่วนเนื้อความจดหมาย ย่อหน้าแรกระบุว่า titre/ carte de séjour ที่เรายื่นขอไปนั้น จัดให้ที่ la Préfecture de Strasbourg 
V. solliciter หมายถึง ยื่นคำขอ  ใน le passé composé ใช้ V. avoir ช่วย เป็น avoir + sollicité (soLLiciter มี L 2 ตัว)
ย่อหน้าที่ 2 ระบุวัน เดือน ปี ที่สามารถไปติดต่อรับการ์ดฯ ใบใหม่ได้
ย่อหน้าที่ 3 ระบุรายการเอกสารที่ต้องนำไป เพื่อยื่นขอรับการ์ดฯ และแลกบัตรใบเก่ากับใบใหม่ด้วย
ย่อหน้าที่ 4 สำหรับคนที่ยังไม่ได้ชำระค่าอากรแสตมป์ในวันที่ยื่นขอต่อบัตรใบใหม่ (ในปีที่ 2 จ่าย 106€)  ก็จะมีการระบุค่าอาการแสตมป์มาด้วย สำหรับคนที่ชำระแล้วแบบมาดาม ก็จะขีดย่อหน้านี้ทิ้งไป
ย่อหน้าที่ 5 ระบุว่าต้องมาขอติดต่อรับบัตรใบใหม่ภายใน 2 เดือน ถ้าเกินเวลา 2 เดือนไม่มารับบัตร ต้องชำระค่าปรับเพิ่ม อีก 180€
ท้ายสุด เป็นสำนวนการลงท้ายจดหมาย ประมาณ ขอแสดงความเคารพ ในกรณีนี้เทียบกับภาษาอังกฤษ คือ Yours faithfully เพราะไม่ได้ระบุชื่อแน่ชัด ใช้ Madame, Monsieur ก็เท่ากับ To Whom It May Concern ประมาณนี้ค่ะ (จำมันไปทั้งยวงเลยค่ะ Je vous prie d'agréer, Madame, Monsieur, l'expression de ma considération distinguée. )
 ท่อนล่างจะมีกล่องข้อความที่ระบุเรื่องใบอนุญาตขับขี่สากล
Sauf cas particuliers คือ ยกเว้นกรณีเฉพาะในวงเล็บ คือ ใบขับขี่ที่ออกโดยประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป และการ์ดเดอเซชู ประเภทนักศึกษาและนักเรียน คือสำหรับ 2 กลุ่มนี้ไม่ต้องไปขอทำใบขับขี่ใหม่
ปกติ ใบขับขี่สากลที่ได้มาจากประเทศอื่นนอกเหนือจากสหภาพยุโรป สามารถใช้ได้ 1 ปี นับจากวันที่ได้รับ carte de séjour ใบแรก พูดง่าย ๆ คือ ครบ 1 ปี ก็ต้องไปขอต่อใบขับขี่ 
สำหรับใบขับขี่ในบางประเทศที่ได้ทำข้อตกลงกับประเทศฝรั่งเศสไว้ ก็สามารถไปติดต่อขอเปลี่ยนใบขับขี่ฝรั่งเศสได้เลย (ภายใน 1 ปี ก่อน carte de séjour ใบแรกหมดอายุ) แต่พี่ไทย ไม่ได้ทำข้อตกลงไว้ จึงต้องมานั่งสอบ permis de conduit กัน
ด้านขวา เป็นการลงชื่อของผู้ออกจดหมาย ก็ผู้มีอำนาจและดูแลในส่วนการต่อบัตรฯ
มุมล่างซ้าย เป็นข้อมูลของผู้ขอบัตรฯ คือ 
NOM นามสกุลของผู้ขอบัตรฯ 
EPOUSE นามสกุลสามี 
PRENOM ชื่อจริงผู้ขอบัตร 
NE (E) le วันเดือนปีเกิด   à สถานที่เกิด   SEXE เพศ  F คือ เพศหญิง
DOCUMENT เอกสารอ้างอิง คือ ใบ récépissé หรือ RCS และระบุระยะเวลาในใบ récépissé ที่ถืออยู่  VALABLE DU .... AU  คือ มีผลใช้จากวันที่ XX ถึง วันที่ XX
N NATIONAL หมายเลขสัญชาติไทย 
N DOSSIER หมายเลขแฟ้ม คือ ทำที่เขต หรือ département ไหน 67... คือ Bas-Rhin  
NATIONALITE สัญชาติ  THAILANDAISE สัญชาติไทย


  1. ใบ récépissé หรือใบแทนของ carte de séjour ที่ได้มาในวันที่ไปยื่นขอต่อการ์ด
  2. หนังสือเดินทาง le passport
  3. หนังสือแจ้งให้มารับบัตรฯ หรือ la convocation
  4. la carte de séjour ใบเก่า ที่ยังถืออยู่
  5. อากรแสตมป์ des timbres fiscaux สำหรับคนที่ไม่ได้ชำระในวันยื่นขอต่อบัตรฯ (ต่อบัตรฯ รอบ 2 เสีย 106 ยูโร)
มาดามขอปิดท้ายด้วยรูปแบบการเขียนจดหมายทางการ หรือ หนังสือราชการในภาษาฝรั่งเศส โดยดูตัวอย่างจาก la convocation ที่ได้มาจาก la préfecture นี่ล่ะ
Madame, Monsieur เทียบกับ To Whom It May Concern คือ เรียนท่านที่เกี่ยวข้อง ใช้เมื่อไม่รู้จักชื่อคนที่ต้องติดต่อด้วย 
แต่ถ้าทราบชื่อของคนที่เราจะ เรียน ถึง ก็ให้ใส่ไปว่า Madame XX, หรือ Monsieur XX
ลงท้ายด้วย Je vous prie d'agréer, Madame, Monsieur, l'expression de ma considération distinguée. หรือ ขอแสดงความเคารพ หรือ Yours Faithfully ในกรณีที่ไม่ได้ระบุชื่อคน 
แต่ถ้าทราบชื่อคน ก็ต้องใส่ Je vous prie d'agréer, Madame XX, l'expression de ma considération distinguée.  หรือ จะ Monsieur XX ก็ตามแต่ค่ะ








Wednesday, May 25, 2016

มาเรียนคำศัพท์เรื่องภัยพิบัติตามธรรมชาติกัน

มาดามได้รวบรวมศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับภัยพิบัติตามธรรมชาติ อย่างน้อยเวลาฟังข่าวก็จะได้ฟังออกและเข้าใจว่าเป็นรายงานข่าวเกี่ยวกับอะไรค่ะ
คำว่าภัยพิบัติตามธรรมชาติ ในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า les catastrophes naturelles
une catastrophe เป็นคำนาม เพศหญิง อ่านว่า อุน คาทาสทรอฟ หมายถึง ภัยพิบัติ หายนะ เทียบเท่ากับ disaster ในภาษาอังกฤษ และเราสามารถใช้คำที่เขียนใกล้เคียงกับ disaster คือ un désastre เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง เดซาสทร (ส่วนตัวเลย ขอเลือกใช้คำว่า une catastrophe เพราะง่ายต่อการออกเสียงมาก)


un incendie de forêt ไฟป่า

ภาวะแห้งแล้ง กันดาร คือ une sécheresse อ่านว่า อุน เซเชอเรซ มาจากคำว่า sec (adj เพศชาย) sèche (adj เพศหญิง) ที่หมายถึง แห้ง เช่น un shampoing pour cheveux secs แชมพูสำหรับผมแห้ง
Il fait sec. อากาศแห้ง
V. boire sec คือ ดื่มเพียวๆ ไม่ผสม เป็นสำนวน
Elle boit un whisky sec.
V. boire un cul sec ดื่มรวดเดียว
Cul sec! หมดแก้ว
V. être à sec เป็นสำนวน หมายถึง ถังแตก ไม่มีเงิน
Je suis à sec.
V. avoir le coeur sec แล้งน้ำใจ
Il a le coeur sec.
V. avoir la peau sèche มีผิวแห้ง
J'ai la peau sèche.

ส่วน séché (e) คือ การทำให้แห้ง หรือ ตากแห้ง
des piments rouges séchés พริกแดงแห้ง des petites crevettes séchées กุ้งแห้ง

แผ่นดินไหว une séisme อุน เซอิสเมอะ หรือ earthquake ในภาษาอังกฤษ
une coulée de boue โคลนถล่ม
des mouvements de terrain แผ่นดินเลื่อน

หิมะถล่ม une avalanche อุน อาวาล๊องช

น้ำท่วม une inondation อุน อังองดาซิอง คำนี้เขียนใกล้กับภาษาอังกฤษ คือ inundation เป็นศัพท์ทางการของคำว่า floodings ต่างกันตรงที่ภาษาฝรั่งเศสใช้ on แต่ภาษอังกฤษใช้ un
un orage อัง ออราช ฟ้าฝนคะนอง เป็นคำนามเพศชาย ถึงแม้จะลงท้ายด้วย e
une tempête อุน ตอมเป็ท พายุ หรือ storm ในภาษาอังกฤษ
une tempête de neige พายุหิมะ
une tempête de grêle พายุลูกเห็บ
une tempête de sable พายุทราย
une tempête de vent ลมพายุ
un Tsunami สีนามิ
un cyclone อัง ซีโคลน พายุเฮอริเคน เป็นคำนามเพศชาย ถึงจะลงท้ายด้วย e และเป็นคำในหมวด tempête ก็ตาม
une tornade อุน ทอรหนาด พายุทอร์นาโด

une éruption volcanique อุน เอรุพซิอง โวลคานิก ภูเขาไฟระเบิด
คำว่า une éruption หมายถึง การระเบิด หรือ une explosion และ V. exploser
un volcan คือ ภูเขาไฟ
une แoulée de lave ลาวาถล่ม
une lave ไม่มีรูปพหูพจน์ หมายถึง ลาวา
แต่ V. se laver หมายถึง อาบน้ำ ล้าง
พอทำเป็นคำนามประสม จะเป็นคำนามเพศชาย เช่น
un lave-linge เครื่องซักผ้า
un lave-vaisselle เครื่องล้างจาน

Monday, May 23, 2016

การใช้คำว่า Incident, Accident และ Incendie

วันนี้มาเรียนคำศัพท์กันค่ะ มาดามจัดให้เป็นกลุ่มเพื่อความ สะดวกในการจำ สมัยก่อนตอนมาดามเตรียมตัว Entrance ก็ท่องจำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ) เป็นกลุ่ม คือ จับคำที่เขียนใกล้เคียงกัน มาท่องจำ เทคนิคนี้ work ทีเดียว เลยขอมาประยุกต์ใช้กับภาษาฝรั่งเศสมบ้าง เผื่อจะรุ่งแบบภาษาอังกฤษ (แอบฝันหวานว่าสักวันจะนอนละเมอ parler français)
บางคนอาจจำสับสนระหว่างคำว่า incident และ accident มาดามเลยจัดมาให้ค่ะ



คำว่า un incident เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง อังซิด๊อง หมายถึง เหตุการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้น
un accident คำนี้ได้ยินบ่อย เป็นคำนาม เพศชาย อ่านว่า อัง อั๊คซิด๊อง หมายถึง อุบัติเหตุ เพราะเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน แบบ par hasard หรือ โดยบังเอิญ ที่ได้ยินบ่อย คือ un accident de voiture อุบัติเหตุรถชน
เราสามารถใช้คำว่า un accident de + คำนาม เพื่อบอกว่าเป็นอุบัติเหตุจากอะไร เช่น un accident de travail อุบัติเหตุจากการทำงาน un accident d'avion อุบัติเหตุเครื่องบิน เป็นต้น
คำว่า une incendie เขียนคล้าย un incident แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว une incendie เป็นคำนาม เพศหญิง อ่านว่า อุน อังซองดี หมายถึง ไฟไหม้ อัคคีภัย
ถ้าภาษาบ้าน ๆ คือ พูดแบบง่าย ๆ คือ Il y a un feu. มีไฟไหม้ ถ้าไฟไหม้บ้าน เรียกว่า un feu de maison ถ้าทางการหน่อย ก็ une incendie domestique
คำว่า un feu เป็นคำนามเพศชาย อ่านว่า อัง เฟอ หมายถึง ไฟ แต่ถ้าเปลวไฟ เรียกว่า une flamme อุน ฟลาม เป็นคำนามเพศหญิง คำนี้ต้องมี m 2 ตัว ถ้าเขียน flame อ่านว่า เฟลม จะเป็นการเขียนแบบภาษาอังกฤ


การดับไฟจะใช้ถังดับเพลิง หรือ un extincteur ส่วนกริยาดับไฟ คือ V. éteindre l'incendie
J'éteins l'incendie.
การกระจาย V. éteindre ใน le présent ให้ตัด ndre ออก แล้วเติมหาง ns, ns, nt, gnons, gnez, gnent
J'éteins                       Nous éteignons*

Tu éteins                    Vous éteignez*
Il/ Elle éteint              Ils/ Elles éteignent*
* สำหรับประธานพหูพจน์ Nous, Vous, Ils, Elles มีการเติม g หน้า n

Le passé composé จะใช้ V. avoir ช่วย => V. avoir éteint
J'ai éteint le feu.  Nous avons éteint le feu.
L'imparfait จะใช้ส่วนหัว éteign + หาง imparfait (ais, ais, ait, ions, iez, aient)
J'éteignais le feu. Nous éteignions le feu.
Le futur นำรูป infinitif มา แล้วตัด e ออก V. éteindre ตัด e ออก และเติมหาง futur (ai, as, a, ons, ez, ont)
J'éteindrai le feu. Nous éteindrons le feu.

หวังว่า สาว ๆ คงจำ un incident, un accident, une incendie และนำไปใช้ได้ถูกต้องนะคะ

Friday, May 20, 2016

เบอร์โทรฉุกเฉินในฝรั่งเศส

มาดามขอแชร์เบอร์โทรฉุกเฉินในฝรั่งเศส เผื่อหลายคนยังไม่ทราบว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะโทรเบอร์อะไรดี ไม่ใช่กด 191 แบบบ้านเรานะคะ ที่ฝรั่งเศสไม่มีเบอร์ 191 และก็ไม่ใช่ 911 เหมือนที่ USA
เรื่องของเรื่อง ตัวมาดามเองตอนมาอยู่ใหม่ ๆ จนถึงทุกวันนี้เองก็เถอะ ยังจะไม่ค่อยได้ โชคดีที่ครูสอนในห้อง ย้ำแล้วย้ำอีกหลายรอบ เลยจำได้แล้วว่ามีเลขเด็ด ๆ อะไรบ้าง  18 15 17

มาดูกันค่ะว่ามีเบอร์โทรฉุกเฉินอะไรบ้าง

สำหรับคนที่เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน หากมีเหตุฉุกเฉิน ก็กด 112 (Cent douze) อ่านว่า ซอง ดู๊ซ เป็นเบอร์ฉุกเฉินระหว่างประเทศในโซนทวีปยุโรป แน่นอนว่า ปลายสายจะ speak Enhlish ใส่ อิอิ

ถ้าเกิดไฟไหม้ incendie หรือ fuite de gaz แก๊สรั่ว หรือ odeur anormale ได้กลิ่นผิดปกติ หรือ  fumée เห็นควันไฟ ก็กดเลย 18 โทรหา les sapeurs-pompiers นักผจญเพลิง ที่นี่อะไร ๆ ก็กดเบอร์ 18 ไม่ใช่เพราะ les pompiers หุ่นแซ่บ แต่สามารถช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ว่าจะมี งูเข้าบ้าน แมวติดบนต้นไม้ เจ็บป่วย เพราะ les pompiers ทำสารพัด 555 จะว่าไปคล้าย ๆ กู้ภัยบ้านเราแหล่ะ

กด 15 SAMU เรียกกันติดปากว่า ซามู คำนี้ย่อมาจาก Service d'aide médicale urgente จะมากับรถ SAMU ถ้าในภาษาอังกฤษ หรือที่บ้านเรา คือ Ambulance รถพยาบาล โทรเรียกเมื่อเกิดป่วยฉุกเฉิน รุนแรง แบบหัวใจวาย ล้มน๊อคกับพื้นไม่ได้สติ มีอุบัติเหตุและมีคนบาดเจ็บ แต่ถ้าท้องเสียไม่นับค่ะ ครูในคลาสเล่าว่ามีมนุษย์ป้าฝรั่งเศสโทรเรียก SAMU มา เพราะหล่อนท้องเสีย (V. avoir une gastro) เนื่องจากหล่อนไม่อยากไปโรงพยาบาลเอง (ขอบอกว่าไปโรงพยาบาลที่ฝรั่งเศส ขึ้นชื่อมากในเรื่องรอนานนนนน)

กด 17 โทรหา La police หากมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย โดนทำร้าย ขโมย หรือ โจรขี้นบ้าน

ที่ฝรั่งเศส หากเจอคนประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับบาดเจ็บ ต้องโทรแจ้งโดยด่วน หากละเลย เพิกเฉย มีความผิดตามมาตรา Article 223-6 เรียกฐานความผิด La non-assistance à personne en danger โดยจะได้รับโทษจำคุก 5 ปี และค่าปรับ 75 000 ยูโร

Quiconque pouvant empêcher par son action immédiate, sans risque pour lui ou pour les tiers, soit un crime, soit un délit contre l'intégrité corporelle de la personne s'abstient volontairement de le faire est puni de cinq ans d'emprisonnement et de 75 000 euros d'amende.
Sera puni des mêmes peines quiconque s'abstient volontairement de porter à une personne en péril l'assistance que, sans risque pour lui ou pour les tiers, il pouvait lui prêter soit par son action personnelle, soit en provoquant un secours.

เวลาโทรเบอร์ฉุกเฉิน สิ่งที่ต้องแจ้ง มีดังนี้
  • Nature du problème ประเภทของปัญหา หรือเหตุฉุกเฉิน เช่น Il y a une collision de voitures. มีอุบัติเหตุรถชนกัน หรือ Il y a un feu. มีไฟไหม้ หรือ Une personne est blessée. มีคนบาดเจ็บ 1 คน
  • Risques éventuels ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น Il y a un risque d'asphyxie.  มีความเสียงที่จะสำลักควันไฟ
  • Localisation บอกพิกัด ตำแหน่งที่เกิดเหตุ คือ บอกเลขที่บ้าน ชื่อถนน หรือบอกว่าใกล้สถานที่สำคัญอะไร
  • Nombre จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
หวังว่าโพสนี้คงจะมีประโยชน์นะคะ


Monday, May 16, 2016

การแข่งขันรถประดิษฐ์ La course de caisse à savon

Bon lundi à tous!
วันจันทร์อีกแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรต่างจากวันอื่น ๆ เพราะไม่มีงานทำ ก็นอนอืดอยู่บ้านทุกวัน 555  วันนี้มาดามขอมาแชร์เรื่อง la course de caisse à savon พอดีมีแข่งขันรถประดิษฐ์เอง หรือ caisse à savon ที่เมือง Wasselonne ที่มาดามอยู่ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวมาดามออกไปดูมาเมื่อวันอาทิตย์ค่ะ สนุกดี ได้เห็นไอเดียในการตกแต่งรถ ในการประดิษฐ์รถของคนละแวกนี้

ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ตอนแรกไม่รู้จักเลยว่า une caisse à savon คืออะไร มาดามจินตนาการไปเองว่าเป็นรถแกะสลักจากสบู่ เพราะเอาเอาจากคำว่า savon มันต้องมีสบู่สิ 555 แต่ไม่ใช่ค่ะ  une caisse à savon หรือ une boîte à savon คือ รถประดิษฐ์ที่ไม่มีเครื่องยนตร์ ไม่มีมอเตอร์ มีแต่ล้อและตัวรถ โดยมีต้นกำเนิดที่สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1933

ทำไมถึงเรียกว่า une caisse à savon?
เพราะมาจากคำว่า soapbox ในภาษาอังกฤษ มาจากการนำลังไม้ที่ใส่สบู่ในสมัยก่อน นำมาดัดแปลงทำเป็นรถ
คำว่า สบู่ ในภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า savon
ส่วนลังไม้ ก็คือ คำว่า caisse นั่นเอง คำนี้ ถ้าใครเคยอ่าน le petit prince ก็จะเจอ


ไม่รู้ว่ามีใครที่ชอบสับสนกับคำว่า course และ cours บ้าง มาดามนี่เป็นบ่อย เพราะติดใช้ภาษาอังกฤษ เพราะคำว่า course ในภาษาอังกฤษ และในภาษฝรั่งเศส มีความหมายต่างกัน เรียกว่า เป็น faux ami คือ เขียนเหมือนกันเด๊ะ ๆ แต่มีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนคำว่า course เลย
la course ในภาษาฝรั่งเศศ ไม่ได้หมายถึง วิชาหรือคลาสที่เรียน แต่หมายถึง การแข่งขัน การวิ่ง เช่น la course de caisse à savon คือ การแข่งรถประดิษฐ์  la course à pied การวิ่ง
ถ้าเป็นรูปพหูพจน์ les courses จะหมายถึง การซื้อของ ช้อปปิ้ง ที่เราใช้บ่อยมาก คือ faire les courses จ่ายตลาด ซื้อกับข้าว 
le cours ในภาษาฝรั่งเศส  (course ที่ไม่มี e ตามท้าย) คือ คลาสเรียน เช่น le cours de français คลาสภาษาฝรั่งเศส  le cours d'anglais คลาสภาษาอังกฤษ

มาดูหน้าตา caisse à savon กัน บางคันก็น่ารัก บางคันก็ออกแนวฮา ดู ๆ ไป ก็นึกถึงซาเล้งไงไม่รู้ 555
รถ bretzel แบบ auntie anne (ในภาษาอังกฤษ และเยอรมัน จะเรียกว่า pretzel ใช้ p แต่ในภาษาฝรั่งเศส จะใช้ b และหาทานได้ทั่วไปใน Alsace ค่ะ)

ถยก
รถโซฟา  un canapé et une lampe
รถเตียงนอน มีเท้าโผล่ด้วย 555  un lit avec les pieds
รถเชอร์รี่ une cerise
รถฟาร์มวัว la caisse à meuh (เสียง มอ มอ ของวัวฝรั่งเศส)
 คันนี้คล้าย ๆ ซาเล้งเลย

ขาดรถชักโครก ไม่งั้นคงได้ฮา และเรียกเสียงกรี้ดได้มากกว่านี้ 5555

Saturday, May 7, 2016

ผักหญ้าข้างทางทานได้ des plantes sauvages comestibles

ฤดูใบไม้ผลิ Le printemps  เป็นช่วงที่สนุกสำหรับการออกไปเดินเล่นในป่า หรือตามทุ่ง มาดามชื่นชมสาวไทยที่อยู่ต่างแดนมาก เพราะสาวไทยเก่ง มีความรู้รอบด้าน และเชี่ยวชาญเรื่องผักป่า สมุนไพร มากด้วย ที่แน่ ๆ ฝรั่งหลายคน ไม่ว่าจะฝรั่งเศส หรือชาวยุโรปแถบนี้หลายคน ไม่รู้เลยว่าผักหญ้าในป่าข้างทางสามารถรับประทานได้ ตัวมาดามเองไม่มีความรู้เรื่องพืชผักในป่าเลย พอเห็นสาว ๆ ออกไปเก็บมาทำอาหาร เลยอยากทำบ้าง เพราะเป็นกิจกรรมที่ดี ได้ออกกำลังกาย ได้ความรู้เรื่องสมุนไพรต่าง ๆ เรียกว่า la cueillette de Printemps การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ

ไม่ใช่ว่าคนไทยชอบของฟรีนะ (ใคร ๆ ก็ชอบของฟรี หรือจะเถียง อิอิ) แต่ชอบทานอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

คนฝรั่งเศสเรียก ผักหญ้า หรือ หญ้า ว่า des herbes ซึ่งถ้าเทียบกับภาษาอังกฤษ ก็คนละแนวเลย สมุนไพร กับหญ้านี่ 555 เรายังอาจเรียกแบบกว้าง ๆ ว่า les plantes ก็ได้
คำว่า comestible เป็น adj แปลว่า รับประทานได้ ถ้ารับประทานไม่ได้ จะใช้คำว่า immangeable หรือ incomestible
ผักหญ้าข้างทาง หรือ วัชพืช คนฝรั่งเศสจะเรียกว่า des mauvaises herbes ถ้าขึ้นในสวน ก็จะโดนถอนทิ้งค่ะ

มาทำความรู้จักพืชผักข้างทางที่สามารถรับประทานได้กันเถอะ
ดอกสีเหลืองที่ขึ้นตามข้างทาง ตามทุ่ง เรียกว่า le pissenlit อ่านว่า พิซซองลี ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า dandilion อ่านว่า แดนดิไลออน  เราสามารถเก็บดอก pissenlit มาทำน้ำผึ้งเทียมทานได้ค่ะ จะใช้แค่ส่วนเกสรหรือกลีบดอกสีเหลืองเท่านั้น เพราะส่วนใบเขียวจะมีรสขม น้ำผึ้งที่ได้จะออกเป็น gelée  แต่ต้องเติม pectine เข้าไปด้วย ไม่งั้นต้มออกมาก็ trop liquide หรือเหลว
ตอนที่ยังไม่ออกดอก สามารถนำใบของ pissenlit มาทำสลัดทานได้ค่ะ ถ้าต้นที่ออกดอกแล้ว จะไม่นำมาทานเพราะจอมีรสขม

หน้าตาน้ำผึ้งเทียมจากดอก pissenlit  ที่มาดามทำ (inspired มาจากโพสในเฟสของคุณ Petite Fleur) มาดามก็ไปค้นหาสูตรมา แต่ไม่ได้ค้นลึกมาก เลยไม่รู้ว่าต้องเติมสาร pectine ลงไปจะได้ไม่เหลวเป็นน้ำ ในเมื่อต้มแล้วก็นำมาใช้ชงน้ำทานได้ ใส่เลม่อน le citron ลงไป เติมเมล็ดเชียลงไปหน่อย น้ำแข็งด้วย สดชื่นดีค่ะ
สำหรับเด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ ก็ชอบเป่าเจ้า pissenlit ให้ปลิวไปตามสายลม ส่วนนี้ทานไม่ได้นะคะ

ต่อไปก็ใบกระเทียมป่า ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า l'ail des ours เพราะหลังจากที่หมีจำศีล พอตื่นมาในช่วง le printemps ก็ออกมาทานใบกระเทียมป่าเลย เพราะขึ้นทั่วไปตอนช่วง le printemps นี่ละ ทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำซอสเพสโต้ la sauce pesto หรือจะผัดไฟแดงแบบไทย ๆ 
ตอนเก็บต้องสังเกตุให้ดีนะคะ เพราะใบมีลักษณะคล้ายกับ muguet มาก  ต่างกันที่ l'ail des ours ใบจะบางกว่า และมีกลิ่นกระเทียม ส่วนดอกจะเป็นพุ่ม ๆสีขาว กลีบเรียวเล็ก แต่ดอก muguet จะเป็นพวง เหมือนกระพวนน้อย ๆ ซึ่งทานไม่ได้ ทานแล้วตายสถานเดียว

 ผักเสี้ยนฝรั่ง หรือ Alliaire ในภาษาฝรั่งเศส หน้าตาแบบนี้ค่ะ ลำต้นจะไม่มีขน ที่มาดามไปเก็บนี่ขึ้นอยู่กลางดงต้นตำแยฝรั่งเลย เด็ดไปก็คันไป
 
ต้นตำแยฝรั่ง หรือจะเรียก หมาหมุ่ย ก็แล้วแต่ คนฝรั่งเศสเรียกว่า ortieโดนทีคันแดง ไปหลายชั่วโมง ถ้าแพ้หนักก็คันเป็นผื่นแดงข้ามวันกันทีเดียว ถึงจะคันยังไง ก็ทานได้ แค่ต้องสวมถุงมือตอนเก็บ ใส่ยีนหนา ๆ ขายาว ไม่เอาแบบเกงยีนขาดนะ ไม่งั้นโดนใบหน่อยนึงก็ร้องจ๊ากเลย คนที่นี่ชอบเก็บมาทำสลัดผักทาน หรือไม่ก็ต้มนำ้อาบ เพราะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดี
มาดามขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ  A bientôt!

Tuesday, May 3, 2016

เรียนรู้ศัพท์และสำนวนการเข้าห้องสุขา (les toilettes)

วีคก่อนมาดามได้อัพเรื่องคำศัพท์และกริยาการใช้ห้องน้ำ หรือ Dans la salle de bains ไปแล้ว วันนี้ก็ขอมาต่อกันด้วยเรื่องการเข้าห้องน้ำ หรือ ห้องส้วม

คำว่า "ห้องน้ำ" ในภาษาฝรั่งเศส มีทั้งห้องอาบน้ำ คือ la salle de bains และอีกห้อง คือ ห้องส้วม หรือ des toilettes ห้องส้วม หรือสุขา เป็นคำนามเพศหญิง และต้องใช้ในรูปพหูพจน์เสมอ
 ถ้ายังเป็นนักเรียน ตัวน้อย ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ เราต้องขออนุญาตคุณครู ว่า "Est-ce que je peux aller aux toilettes?"

V. aller à ไปที่ พอใช้กับคำนามพหูพจน์ จะเปลี่ยน à les เป็น aux ซึ่งเป็นการลดรูป
V. aller aux toilettes ไปห้องน้ำ
 ส้วมก็มีหลายแบบ ชักโครก les toilettes à chasse d'eau หรือ ส้วมคอห่าน แบบนั่งยอง ๆ อันนี้เรียกว่า les toilettes à la turque หรือ les toilettes turques เพราะที่ตุรกีใช้ส้วมแบบนี้กัน เราจะพบส้วมแบบนี้เวลาใช้บริการส้วมสาธารณะ les toilettes publiques แบบมาดามที่เจอที่ Cancale มาดามนี่เหวอเลย ปวดฉี่มาก แต่ไม่อยากใช้ 555 ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น ห้องน้ำในสนามบินนาริตะ เวลาที่ลงจากเครื่องบินแล้ว ก็จะเจอส้วมนั่งยองแบบนี้ค่ะ เล่นเอาฉี่ไม่ถูกเลย ไม่ใช่กลัวลุกไม่ขึ้น เพราะอ้วน แต่กลัวฉี่พุ่ง เลอเทอะ 5555

 คำว่ากดชักโครก ใช้กริยา V. tirer la chasse (à d'eau) ปกติ V. tirer หมายถึง ดึง ซึ่งจะพบป้าย TIREZ ดึง และ POUSSEZ ผลัก มาจาก V. pousser ที่ประตูห้าง หรือประตูสำนักงานต่างๆ

 การถามหาห้องน้ำในภาษาฝรั่งเศส จะถามว่าอย่างไร
Où sont les toilettes?  Où คือ คำที่ใช้ถามว่า ที่ไหน เทียบเท่า Where ในภาษาอังกฤษ
ใช้ sont (V.être) เพราะ les toilettes เป็นพหูพจน์
 การเข้าห้องน้ำ ก็ควรรู้จักมารยาทด้วย คือ ถ้าเราเป็นแขกไปทานข้าวบ้านคนอื่น ก็ไม่ควรลุกไปเข้าห้องน้ำระหว่างรับประทานอาหาร มันไม่สุภาพ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพูดแบบอ้อม ๆ  เนื่องจากคนฝรั่งเศสไม่ชอบให้พูดโต้ง ๆ ตรง ๆ ชอบอะไรที่เป็นสำบัดสำนวนมาก ดังนั้น การจะบอกว่าไปเข้าห้องน้ำ จึงมีสำนวนให้เลือกใช้มากมาย
 การนั่งส้วม โดยเฉพาะการนั่งชักโครก ก็มีสำนวนที่น่าจำ คือ V. être sur le trône  เปรียบเหมือนนั่งบัลลังค์ราชา 5555
การนั่งส้วม ก็มีกริยาเฉพาะ คือ จะนั่งชักโครก V. s'asseoir ซึ่งผันไม่เหมือนชาวบ้าน เป็นกริยาผันไม่ปกติ ส่วนการนั่งยอง ๆ  คือ V. s'accroupir ซึ่งผันแบบกริยาในกลุ่มที่ 2 ที่ลงท้ายด้วย -ir แบบ V. choisir คือ จะผัน/ลงท้ายด้วย is, is, it, issons, issez, issent

สำนวนที่ใช้บอกว่าทำภารกิจหนักเบาในห้องน้ำ มีให้เลือกมากมาย มาดามก็ยังติดพูดแบบภาษาเด็กน้อย faire pipi, faire caca นี่ล่ะ ก็เรียนมาตั้งแต่ตอน มอปลาย ยังจำได้ 555 
ภาษาฝรั่งเศส ก็เหมือนภาษาไทยและภาษษอังกฤษ คือ มีดีกรี หรือ ระดับของคำ ว่าสุภาพ ทางการ ไม่ทางการ ภาษาพูด และแสลง  ก็ควรเลือกใช้ เลือกพูดให้ถูกต้องกับกาลเทศะ เด้อ



 มาดูสำนวนที่บอกว่า ไปอึ ไปฉี่ กัน ตอนทำสรุปนี่ มาดามก็ขำไปหลายตลบ คือ คนฝรั่งเศสก็เข้าใจเปรียบเทียบ ก็ไม่ต่างจากคนไทย อะไรที่เกี่ยวกับ อึ ก็มาแนวเหลือง ๆ หรือ ก้อน ๆ ส่วนฉี่ ก็อะไรที่เกี่ยวกับน้ำ

คราวนี้ ถ้าปวดอึ จะพูดว่าไง มีทั้งแบบปวดเตือน และใกล้จะออกแล้ว อิอิ
เน้นอีกรอบ คำว่า ห้องส้วม ในภาษาฝรั่งเศส "les toilettes" จะต้องใช้รูปพหูพจน์เสมอ
มาดูป้ายต่าง ๆ กัน จริง ๆ ก็สากลนะ คือ ดูรูปผู้ชาย ผู้หญิง เอาได้ แต่อยากให้จดจำศัพท์ไปใช้ เลยลงให้อ่านนะคะ

 ศัพท์ในห้องน้ำ กลับมาอีกรอบ

พอดีมาดามเรียนไปวีคที่แล้ว คนสอนบอกว่า คำว่า กระจก สามารถใช้คำว่า un miroir และ une glace ได้ แต่ในบางครั้ง la glace ที่หมายถึง น้ำแข็ง เราก็ไม่สามารถมองส่อง สะท้อนได้ เหมือนกระจกส่องหน้าแบบ un miroir  แถมคำว่า la glace มีได้หลายความหมาย ทั้งไอษครีม ทั้งน้ำแข็ง ก็ต้องฟังคำในประโยคกันให้ดี ๆ ค่ะ


 คำว่า กระดาษทิชชู่ หรือ ทิชชู่ แบบที่เราเรียกกันติดปาก ในภาษาฝรั่งเศสจะไม่เรียกว่า ทิชชู่ Tissu แต่เรียกว่า un papier toilette คือ กระดาษชำระ ส่วนคำว่า Tissu หมายถึง ผ้า

 คำว่า une serveitte ก็มีหลายคำ แยกตามประเภทการใช้ เช่น ผ้าขนหนูใช้ในห้องน้ำ เรียกว่า une serviette de bain แต่ถ้าไปชายทะเล ใช้เป็นผ้าปูชายหาด จะเรียกว่า une serviette de plage ถ้าใช้บนโตํะอาหาร ไว้สำหรับเช็ดปาก เรียกว่า une serviette de table



 ท้ายสุด มาดามไปหาคำที่ใช้เรียกภาชนะต่าง ๆ ในห้องน้ำแบบไทย แบบบ้าน ๆ มันน่าสนใจดีค่ะ