Wednesday, November 26, 2014

Liste des présidents de la République française: Cinquième République

ช่วงนี้มาดามคิวรัดตัวค่ะ ทำกิจกรรมเยอะ โปรแกรมแน่นเอี๊ยดทั้งวีค เลยไม่ค่อยมีเรื่องราวมาแชร์สำหรับการเตรียมตัวสอบ OFII นะค่ะ  วันจันทร์-พุธเช้า ทำการบ้านภาษาฝรั่งเศส พุธบ่ายออกไป tricoter หรือนิตติ้งเพื่อตกแต่งเมือง พฤหัสเช้าเรียนภาษาฝรั่งเศส บ่ายกลับมาทำการบ้าน ศุกร์บ่ายออกไปนิตติ้ง แต่ศุกร์นี้ต้องไปอบรมกับ OFII เรื่องการหางาน

เอาเป็นว่าเรามาเริ่มทำความรู้จักกับท่านผู้นำประเทศฝรั่งเศสกันค่ะ ซึ่งก็มีอยู่ในข้อสอบ OFII ด้วย บางครั้งจะโดนถามชื่อท่านประธานาธิบดีมาสองสามท่าน แล้วแต่โชคนะค่ะว่าจะโดนถามชื่ออะไร อิอิ แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ไหนๆ จะย้ายมาอยู่ประเทศเขา ก็ต้องรู้จักไว้บ้างค่ะ

ปัจจุบัน François Hollande (ฟรองซัว  ออลลอง) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 24  และดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ le 15 mai 2012 (วันที่ 15 พฤษภาคม 2555) ในภาษาฝรั่งเศสจะเรียกประธานาธิบดีคนปัจจุบันว่า L'actuel président de la République française
ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐฝรั่งเศส จะดำรงตำแหน่ง 5 ปี และจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีมาดำรงตำแหน่ง ทำให้ตอนนี้จะเห็นหน้า Nicolas Sarkozy ในทีวีทุกวัน เพราะเขาต้องการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง และมีฐานเสียงสนับสนุนที่สำคัญ เช่น Madame Chirac ท่านผู้หญิงของอดีตประธานาธิบดี Chaques Chirac นั่นเอง ก็ต้องรอลุ้นกันว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งนี้ในอนาคต
สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบ OFII สิ่งที่ควรจะรู้และต้องตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส คือ รายนามประธานาธิบดี ยุคที่ 5  หรือ ระบบสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5

Liste des présidents de la République française: Cinquième République





Tuesday, November 25, 2014

บริการผันกริยาผ่าน Le Figaro

หากใครกำลังเรียนเรื่องการผันกริยาในภาษาฝรั่งเศส มาดามมีเพจที่น่าสนใจมาแนะนำค่ะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อหนังสือ Conjuguer Verb เป็นบริการฟรีของ Le Figaro

สามารถลองเข้าไปศึกษาการผันกริยาได้ที่ http://leconjugueur.lefigaro.fr/conjugaison/ แค่คีย์กริยาที่ต้องการผัน แล้วกด Conjuguer แค่นี้เอง ทีนี้มาครบทุก tense เลย

จากภาพตัวอย่าง มาดามลองคีย์ V. être และผลลัพธ์ก็เยี่ยมมากค่ะ

Wednesday, November 12, 2014

มาฟังเพลงฝรั่งเศสกัน กับ nouvelle album de Zaz

Bonjour à tous! Aujourd'hui il fait mauvais temps parcequ' il n y pas de soleil et le ciel est gris! วันนี้อากาศไม่ดีค่ะ ไม่มีแดด ท้องฟ้าเป็นสีเทา

ครึ้มๆ แบบนี้มาฟังเพลงกันดีกว่า ขอแนะนำ nouvelle album de Zaz - Paris เพลงเพราะๆ แบบ classic ได้อรรถรสของความเป็น Paris แบบย้อนยุค 


Saturday, November 8, 2014

ภาษาฝรั่งเศสวันละคำ: Petits pois mangetout

วันนี้ขอเสนอคำว่า "Petits pois mangetout" แต่ลุงบอกว่า "Haricots mangetout" หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออะไร ลองมาเดาความหมายกันดูนะค่ะ แบบเดาเอาทีละคำ
petits หมายถึง เล็ก ๆ ส่วน pois คือ pea หรือ ถั่ว  haricots หมายถึง ถั่ว
mangetout เป็นคำประสม มาจาก verb manger ที่มีความหมายว่า รับประทาน กิน ส่วนคำว่า tout หมายถึงทั้งหมด รวมกันจึงหมายถึง ทานได้ทั้งหมด
แล้วถั่วอะไรทานได้ทั้งหมด ก็ ถั่วลันเตา ไงค่ะ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า snow peas แต่ที่ deutschland จะเรียก zuckererben เพราะรสชาติถั่วลันเตาหวาน

การเรียนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ เยอรมัน หรือว่าฝรั่งเศส เราต้องสะสมคำศัพท์ไว้ในหัวให้มาก และนำมาใช้แบบ mind map เพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ  ซึ่งจะทำให้เราสามารถจดจำคำศัพท์ได้เป็นหมวดหมู่ เป็นกลุ่มเป็นก้อน ดังนั้น การวิเคราะห์ หรือ หาที่มาของรากศัพท์ จะช่วยให้เดาความหมายของคำนั้นได้

มาดามซื้อ petits pois mangetout มาในราคา 0.99 ยูโร ทานได้หนึ่งมื้อ เลยจับหั่นครึ่งท่อน นำไปผัดน้ำมันหอย ใส่พริกกระเทียม หวาน กรอบ อร่อย

สำหรับโพสนี้ มาดามพยายามนำศัพท์คำว่า "petits pois mangetout" มาเขียนเป็นเมนูอาหาร คือ ผัดถั่วลันเตา โดยเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส มาดามใช้เวลาพอสมควรในการหาศัพท์ และถามลุง ซึ่งเป็นการฝึกเขียนและเรียนรู้ศัพท์ไปในตัวค่ะ ถือเป็นการต่อยอดความรู้ภาษาฝรั่งเศส จาก 1 คำ แตกเพิ่มได้อีกหลายคำเลยทีเดียว

Recette de petits pois mangetout au wok
Ingrédients pour deux personnes:
200 grammes de petits pois mangetout
une demi cuillère à café de sauce claire de soja
deux piments rouges
une gousse d'ail
une cuillère à soupe de sauce d'huître
une pincée de poivre
une cuillère à soupe d'huile de tournesol
une cuillère à soupe d'eau

Chauffer l'huile dans le wok. Ajouter les petits pois mangetout, l'ail et les piments hachés, la sauce d'huître et de soja claire. Faire sauter trois à cinq minutes puis ajouter l'eau et le poivre.
C'est facile. Bon appétit!

สูตรผัดถั่วลันเตา
ส่วนผสมและเครื่องปรุงสำหรับ 2 คน
ถั่วลันเตา 200 กรัม
ซอสถั่วเหลือง 1/2 ข้อนชา
พริกแดง 2 เม็ด
กระเทียม 1 กลีบใหญ่
น้ำมันหอย 1 ข้อนโต๊ะ
พริกไทย
น้ำมันพืช 1 ข้อนโต๊ะ
นำ้เปล่า  1 ข้อนโต๊ะ

ตั้งกระทะให้ร้อน และเทน้ำมันใส่ จากนั้นใส่ถั่วลันเตา กระเทียมและพริกสับ น้ำมันหอยและซอสถั่วเหลืองลงไป ผัดไปประมาณ 3-5 นาที จึงเติมน้ำเปล่าและเหยาะพริกไทย

เสร็จแล้ว ง่าย ๆ อร่อย ๆค่ะ





Friday, November 7, 2014

ประสบการณ์การเรียนภาษาฝรั่งเศสแบบตัวต่อตัวในประเทศฝรั่งเศส

Bon vendredi! สุขสันต์วันศุกร์คร้า
มาดามขอแชร์ประสบการณ์ในการเรียนภาษาฝรั่งเศสแบบตัวต่อตัวกับครูฝรั่งเศสในประเทศฝรั่งเศส คือ เป็นการเรียนแบบ Personal ค่ะ จะมีแค่ผู้เรียนและครูผู้สอนแค่ 2 คน ในห้องเรียน ครูผู้สอนจะทำหน้าที่เป็น Personal tutor และ Coaching ภาษาให้เราค่ะ เหมือนกับที่เราจ้างครูมาสอนที่บ้านประมาณนี้นะค่ะ แต่การจ้างครูมาสอนที่บ้านต้องจ่ายเป็นชั่วโมงค่ะ แล้วแต่ราคา บางคนจะคิด 8 ยูโร/ ชั่วโมง โดยมากจะเป็นนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษนะค่ะ สามารถหาประกาศรับสอนทางอินเตอร์เนทได้ค่ะ โดยค้นหาจากเพจหางานนะค่ะ เรายังสามารถหาคอร์ส personal tutor กับสถาบันภาษาได้ แต่ขอบอกว่าราคาแพงมากค่ะ  เพราะปกติสถาบันภาษา เช่น Alliance française จะเปิดคอร์สภาษาเป็นแบบ Mass นั่นหมายถึง รับผู้เรียนจำนวนมาก อาจจะ 20 คนขึ้นไป ต่อหนึ่งห้อง เรียนเหมือนตอนที่เราเรียนหนังสือตอนเด็กนั่นละค่ะ แค่จำนวนนักเรียนน้อยกว่า แต่การสอนอาจไม่ทั่วถึงทุกคน คนไหนขยันตอบ ขยันถามก็จะได้เปรียบกว่าคนที่นั่งเงียบค่ะ และการเรียนกับ OFII ก็เป็นแบบ Mass นี่ละค่ะ แต่แย่กว่าเพราะจับทุกคนมาเรียนรวมกัน ไม่ว่าจะไทย อาหรับ แถมไม่มีการสอบวัดระดับ หรือ placement test ก่อน เพื่อคัดกรองผู้เรียนว่าเรียนอยู่ระดับไหน จึงอาจเกิดปัญหาเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ตามไม่ทัน ทั้งนี้ มาดามเองไม่เคยไปเรียนกับ OFII เนื่องจาก OFII ไม่ให้โอกาสเรียนฟรี เพราะคลาสเต็ม บลา ๆ สารพัดค่ะ

กลับมาที่การเรียนแบบ personal tutor ของมาดามกันดีกว่า ขอบอกว่าเรียนฟรีค่ะ เป็นการบริการสังคมที่ดีมากของ Association Trampoline Molsheim ทำไมเหรอค่ะ เหตุผลง่าย ๆ คือ ในปัจจุบัน คนฝรั่งเศสเอง ไม่ว่าจะเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ ไม่สามารถเขียนภาษาฝรั่งเศสได้อย่างถูกต้อง เขียนไม่ถูกต้องตามไวยากรณ์ องค์กร Trampoline จึงมีขึ้นเพื่อการนี้ค่ะ ส่วนผู้สอนจะเป็นผู้ที่เกษียณแล้วและต้องการทำประโยชน์คืนให้สังคมค่ะ แน่นอนครูผู้สอนคงไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษามาก่อน จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เรียนเองด้วย เพื่อจะได้สร้างบทเรียนที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนเองด้วย ถือว่าเป็นการเรียนการสอนที่มีประโยชน์มาก ไม่ใช่เรียนตามตำรา ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองแบบการเรียนในไทย ซึ่งไม่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้แบบ 100%

วันแรกของการเรียน จะเป็นการทำความรู้จัก หรือ Introduction แต่ไม่ใช่มานั่งเรียนว่าฉันชื่ออะไร สบายดีไหม แบบ Bonjour, comment vous vous appelez? ครูผู้สอนจะแนะนำตัวเองและถามชื่อเรา ถามประวัติการทำงาน ความชอบ เป็นต้น การเรียนการสอนจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันมากกว่า ระหว่างภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ และวัฒนธรรม สิ่งที่ได้จากการเรียนในวันแรกของมาดาม คือ
  • วัฒนธรรมการเรียกชื่อ ในฝรั่งเศสและชาวตะวันตก จะเรียกชื่อสกุลก่อน (Nom) เพื่อที่จะได้รู้ว่ามาจากครอบครัวไหน แต่ที่ไทยจะเรียกชื่อจริง (Prénom) เนื่องจากนามสกุลไทยเรามันยาว และถ้าเราสนิทกันก็จะไม่เรียกชื่อจริงที่เป็นทางการ แต่จะเรียกชื่อเล่นแทน
  • เวลา ฝรั่งเศสจะใช้แบบ 24 ชั่วโมงแบบไทย และใช้แบบอังกฤษ คือ  0-12 แต่ไม่มีคำว่า am. pm. จะใช้ช่วงเวลามาบ่งบอกว่าช่วงเช้า  du matin ช่วงบ่าย de l'après-midi ช่วงเย็น du soir และยังแบ่งการบอกนาทีเป็นแบบ quarter คือ แบ่งออกเป็น 15 นาที (et quart) 30 นาที (et demi) 45 นาที (moins le quart) และการบอกว่าอีกกี่นาทีจะถึง X โมง เช่น อีกสิบนาทีจะถึง 11 โมง - Il est onze heures moins dix. แบบหลังนี่ต้องนั่งคิดเลขเอาด้วย
  • มีศัพท์ฝรั่งเศสที่เหมือนและคล้ายกับภาษาอังกฤษมากมาย เนื่องจากภาษาอังกฤษได้ยืมคำจากต่างประเทศมาใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น old french หรือ  deutsch  ซึ่งบางคำเขียนต่างกันนิดหน่อย ทำให้สับสนได้ กรณีของมาดาม ครูผู้สอนถามว่าเคยทำงานอะไรมา เลยตอบว่า assistant manager , state-owned enterprise ในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า entreprise อองเทรอะพรี แต่มาดามยังติดเขียนเป็นภาษาอังกฤษอยู่ เขียน enterprise มาทั้งหน้าเลย ลุงมาตรวจเจอเลยแก้ใหม่ ตัวแดงเต็มหน้า
    • SMEs ที่ฝรั่งเศส เรียกว่า PMEs ย่อมาจาก Petites et Moyennes Entreprises
    • Micro Business ธุรกิจขนาดจิ๋ว ที่ฝรั่งเศสจะเรียกว่า TPE หรือ Très petite entreprise
    • ธุรกิจ บริษัท ที่เราเรียกว่า enterprise ที่ฝรั่งเศสจะใช้คำว่า l'entreprise ซึ่งเป็นคำนามเพศหญิง สะกดคล้ายอังกฤษ แต่สลับตำแหน่งตัวอักษร คือ ฝรั่งเศส ใช้ re แต่อังกฤษใช้ er
ก่อนจบคลาสวันแรก ครูก็ให้หัวข้อไปเตรียมตัวเพื่อเรียนในคลาสหน้า คือ เชิญเพื่อนมาทานอาหารที่บ้าน เตรียมอาหาร ส่วนการบ้านครูจะส่งเมล์ให้ทำเป็นเรื่องการบอกเวลา

การเรียนภาษาต่างชาติ ต้องอาศัยความพยายามและความกระตือรือร้นที่จะเรียนและขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา การที่มีครูมาสอน เป็นการชี้แนะและตรวจแก้ข้อผิดพลาดของเราเท่านั้น  มาดามเอาความรู้ที่ได้รับจากครูมาทบทวน และค้นหาเพิ่มเติมจากอินเตอร์เนทอีกทาง คิดว่า self-study ก็เป็นตัวช่วยอีกทางค่ะ และครั้งหน้า มาดามจะพยายามพูดภาษาฝรั่งเศสให้มากขึ้น และจะพยายามไม่พูดภาษาอังกฤษ ไม่รู้จะทำได้ไหม

Bon weekend!

Thursday, November 6, 2014

การหาที่เรียนภาษาฝรั่งเศส

การขอวีซ่าติดตามสามีมาอยู่ฝรั่งเศสได้นั้น ต้องมีการสอบภาษาฝรั่งเศสซึ่งเป็นกฎระเบียบบังคับที่ต้องกระทำกันตามที่กำหนดไว้โดยกระทรวงกลาโหม หรือ Ministère de l'intérieur françaisโดยมีหน่วยงานที่เรียกว่า OFII ชื่อเต็มของหน่วยงานนี้ คือ Office français de l'immigration et de l'intégration เป็นผู้ดูแล  ปัญหาที่พบคือสาวไทยส่วนใหญ่มักจะกลัวมากกับการสอบภาษานี้ เนื่องจากภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เป็นภาษาที่สอง หรือ second language อย่างภาษาอังกฤษที่ได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนในประเทศไทย และถือว่าภาษาอังกฤษเป็น international language ในทางกลับกัน ภาษาฝรั่งเศสถือเป็นภาษาต่างชาติที่สามารถเลือกเรียนได้ในชั้นมัธยมปลาย หรือสายศิลป์ นั่นเอง ดังนั้น ผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น คือ ผู้ที่เลือกเรียนสายศิลป์ภาษา หรือ ผู้ที่สนใจเรียนภาษาฝรั่งเศสโดยสมัครเรียนตามสถาบันสอนภาษาฝรั่งเศส นั่นเอง สำหรับมาดามเองเข้าทั้งสองกรณี คือ มาดามจบสายศิลป์ฝรั่งเศส และได้ลงเรียน ทบทวนภาษากับ Alliance française

สำหรับคนที่ต้องการหาที่เรียนภาษาฝรั่งเศสในกรุงเทพฯ สามารถเลือกที่เรียน ดังนี้
  1. Alliance française de Bangkok หรือ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ ซึ่งตั้งใกล้กับสถานทูตญี่ปุ่น ถนน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://afthailande.org/th/language-center/french/adults/extensive-package-2x15h-or-1x3hweek-30h10-weeks/ คอร์สวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 6,000 บาท
  2.  สถาบันภาษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ซึ่งจัดอบรมให้แก่บุคคลภายนอก เป็นการให้บริการแก่สังคมอย่างหนึ่ง ราคาเฉลี่ย/คอร์ส ประมาณ 3,800 บาท รวมค่าหนังสือ
ขอแนะนำว่าให้เตรียมตัวเรียนภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้นมาจากไทยเลยจะดีกว่าค่ะ เพราะจะได้สื่อสารง่าย ค่าเรียนก็ถูกกว่ามาก อีกอย่างเวลาเรียนภาษาฝรั่งเศสที่นี่ ครูไม่พูดไทยแน่นอน และครูก็ไม่พูดอังกฤษ ทำให้เราไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูสอนเท่าไหร่นะค่ะ

สำหรับคนที่อยู่ฝรั่งเศสแล้ว สามารถติดต่อสอบถามเรื่องสถานที่เรียนได้จาก OFII และ Mairie ในเขตที่อยู่ได้ หรือ alliance française ให้คลิกไปดูที่ nos tarifs ซึ่งจะบอกราคาคอร์สให้ ถ้าเป็น super intensif 80 ชั่วโมง ราคา 740 ยูโร ราคานี้สามารถซื้อตั๋วไป-กลับ ปารีส กรุงเทพฯ แบบบินตรงได้เลย

กรณีของมาดาม ทาง Mairie แนะนำให้ไปติดต่อเรียนภาษาฝรั่งเศสกับ Association Trampoline ที่ Molsheim ซึ่งเป็น non profit organization ซึ่งให้การช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเขียน อ่าน ภาษาฝรั่งเศส และคณิตศาสตร์

ทั้งนี้ ลุงได้ติดต่อนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ Trampoline  เพื่อพามาดามไปสัมภาษณ์สำหรับวัดระดับภาษาฝรั่งเศส  เจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์เป็นภาษาฝรั่งเศส ดังนี้
  • ให้เขียนชื่อ-นามสกุลของเรา คือ บอกให้เขียน Nom et prénom (สลับกับบ้านเราค่ะ ที่นี่จะเรียกนามสกุลก่อน) วัน เดือน ปีเกิด เบอร์โทรติดต่อ สัญชาติ
  •  เขียนว่าชอบทำอะไร เพื่อวัดทักษะการเขียนและความรู้ภาษาฝรั่งเศส มาดามไม่รู้จะเขียนอะไร คือ ภาษาฝรั่งเศสในตอนนี้ จำอะไรไม่ค่อยได้ เขียนได้แค่ present tense ง่าย ๆ เท่านั้น คำศัพท์ในหัวก็มีน้อยนิด เลยเขียนไปว่าเป็นคนไทย ชอบทาน escargots มาก และชอบนิตติ้ง
  • ให้อ่านเนื้อเรื่องสั้น ๆ ให้ฟัง เพื่อทดสอบทักษะการอ่าน 
  • ตอบคำถามจากเนื่อหาที่อ่าน เป็น choice ให้เลือก เพื่อทดสอบ comprehension การเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน
  • Dictation คือ เขียนคำตามที่เจ้าหน้าที่บอก และเขียนเป็นประโยคด้วย เพื่อวัดว่ามีความรู้เรื่อง grammar ความสอดคล้องของประธาน กิริยา กรรม ไหม ปรากฎว่ามาดามไม่ได้เขียน adj ให้สัมพันธ์กับนาม
  • อธิบายภาพ คือ มีภาพมาให้เราพูดว่าในภาพมีอะไร ใครทำอะไร ในภาพที่ได้มานั้นเป็นภาพในร้าน fast food มีคนสูบบุหรี่ และเด็กน้อยทำหน้าไม่ชอบ มาดามนึกคำว่า "ไม่ชอบ" เป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ ในหัวนึกออกแต่เยอรมัน ส่วนอีกภาพมีถังขยะ เศษกระดาษ วัยรุ่น มาดามไม่รู้ศัพท์คำว่า "ถังขยะ" เลยพูดว่า trash can อิอิ นึกอะไรไม่ออกก็ speak english โล้ดดดด หลังจากทดสอบมาหลายวัน นั่งดูทีวี มาเลยคพว่า poubelle ถังขยะ ทีก่อนหน้านี้ไม่มีให้ได้ยินนะ 555
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ Trampoline ก็สรุปให้ฟังว่ามาดามต้องเน้นเรียนเรื่องอะไรบ้าง และจะนัดครูสอนให้ไปสอนที่ mairie และยังย้ำว่าต้องพูดภาษาฝรั่งเศสในบ้านด้วย อย่าใช้แต่ภาษาอังกฤษ

หลังจากนั้น ประมาณเกือบสองอาทิตย์ ครูผู้สอนก็โทรติดต่อมาและนัดว่าจะเริ่มเรียนภาษาวันไหน และกี่โมง ครูสอนแบบตัวต่อตัวเลย แถมสอนฟรีอีกต่างหาก ถึงแม้ชั่วโมงเรียนจะน้อยหน่อย คือ ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีที่เรียนเลย ค่อยหาที่เรียนเพื่มอีกทีค่ะ

Vivre la France!


Monday, November 3, 2014

การอบรมครั้งแรกกับ OFII

หลังจากที่มาดามห่างหายไปสักพัก เพราะยุ่งกับการถักนิตติ่งนะค่ะ เร่งถักให้น้อง ๆ ที่ไทย กับถักเอาไว้ใช้เองสำหรับหน้าหนาวที่ฝรั่งเศส วันนี้มาดามขอมาแชร์ประสบการณ์การเข้าอบรมครั้งแรกกับ OFII ค่ะ สำหรับมาดามเป็นการอบรมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในฝรั่งเศสค่ะ ที่เรียกว่า "Session d'information sur la vie en France" ซึ่งตามหนังสือนัดหมายที่ได้จาก OFII ในวันที่ไปตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากับ OFII นะค่ะ (มาดามได้หนังสือนัดมา 2 ฉบับค่ะ คือ การใช้ชีวิตในฝรั่งเศส กับการหาหางาน ส่วนอีกเรื่องรอ OFII ส่งหนังสือนัดหมายมาทางไปรษณีย์ค่ะ)

มาดูหน้าตาหนังสือนัดหมายของ OFII สำหรับเรื่องการใช้ชีวิตในฝรั่งเศสกันค่ะ

มาดามไปอบรมมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ค่ะ ให้ลุงพาไป เพราะไม่สามารถไปเองได้ คือ ต้องนั่งรถบัสไปต่อ tram แล้วเดินต่อไปอีก หลงทางก็พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ในหนังสือนัดหมายนี่จะระบุวันที่อบรม สถานที่ และเวลาที่เริ่มอบรม (แต่ไม่ระบุเวลาเลิก) พร้อมระบุว่ามีอาหารกลางวันให้ทานฟรีด่วยค่ะ OFII จะจัดหาล่ามไทยให้ค่ะ มาดามขอแนะนำว่าให้พยายามเกาะกลุ่มคนไทยไว้ เพราะในห้องอบรมจะแบ่งให้นั่งเป็นโซน คือ ฝรั่งเศส อาหรับ ไทย เผอิญว่ามาดามไม่ได้เรียนภาษากับ OFII จึงไม่มีเพื่อนคนไทย และที่นั่งเต็ม เลยลากเก้าอี้ไปนั่งข้างเสา ติดกับคนที่พูดฝรั่งเศสได้ ต้องใช้วิชาเงี่ยหูฟังล่ามไทย กับอ่านเอาจาก PowerPoint บน screen นะค่ะ เดา ๆ เอา รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง

ก่อนเริ่มอบรมเจ้าหน้าที่ Formation จะให้เซ็นชื่อค่ะ

เนื้อหาของการอบรม แบ่งออกเป็นหัวข้อใหญ่ ๆ คือ 1. โรงเรียน การเข้าเรียน สิทธิ(เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตร) 2. การหาที่พัก หรือ lodgement สามารถติดต่อหน่วยงานไหนได้บ้าง สิทธิและสัญญาการเช่า (หัวข้อนี้ มาดามไม่เห็นด้วย เพราะการที่เราจะติดตามมาอยู่กับสามี หรือ ย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศส ก็ต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอยู่แล้ว) การย้ายที่อยู่ต้องแจ้งหน่วยงานใดบ้าง 3. การรักษาพยาบาล (โดยส่วนตัว น่าจะให้เบอร์โทรฉุกเฉินด้วย จะได้รู้ว่าควรจะติดต่อใคร) สิทธิการคลอดบุตร ตัวอย่างบัตร Vitale Carte d'assurance maladie ว่าหมายเลขในบัตรบ่งบอกอะไรบ้าง เช่น เพศ ปีเกิด เขตที่อยู่ เป็นต้น 4. การหางาน ตัวอย่าง Payroll ลักษณะสัญญาจ้าง 3 ประเภท คือ ถาวรแบบไม่ระบุวันหมดสัญญา แบบระบุเงื่อนไขเวลา และแบบชั่วคราว และอื่น ๆ

ระหว่างการอบรม สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ Formation ได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามล่ามได้ค่ะ

หลังจากอบรมเสร็จ จะมีใบประกาศสีเขียวอ่อนให้มา ต้องตรวจสอบชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิดว่าถูกต้องหรือไม่ และเก็บรักษาให้ดี อย่าทำหาย เพราะต้องนำไปขอยื่นต่อการ์ดกับ Prefecture ในปีถัดไปค่ะ
พอได้ certificate ครบทุกคน ถือว่าการอบรมเสร็จสิ้น เรามีสิทธิเลือกที่จะไปรับประทานอาหารกลางวันฟรีหรือไม่ไปก็ได้ค่ะ อาหารก็พื้นๆ ไม่ได้เลิศเลออะไร พอทานได้แต่ไม่แซ่บเท่านั้นเอง

สุดท้าย มาดามก็ได้ทำความรู้จักและพูดคุยกับเพื่อนชาวไทย นี่ละคนไทย อย่างน้อยก็ไม่ทิ้งกันค่ะ เพื่อน ๆ น้อง ๆ พี่ ๆ ที่อยู่ Alsace เขต 67 และ 68 น่ารักทุกคนเลย