หลายคนที่อยู่ไทยคงไปเที่ยวสงกรานต์อย่างสนุกสนาน และอีกหลายคนที่อยู่ฝรั่งเศสก็เช่นกัน ตัวมาดามเองก็ได้ไปท่องเที่ยว en vacances มา แต่แบบตะลอนทัวร์ ประมาณทัวร์เหยียบนั่นแหละค่ะ ตามประสาคนอยู่บ้านนอก ห่างไกลจากทะเล เลยอยากไปทานอาหารทะเลสด ๆ ริมทะเล จึงเป็นแรงกระตุ้นให้เดินทางข้ามฝาก จากตะวันออกของฝรั่งเศส หรือ Grand Est ซึ่งเป็นชื่อแคว้นใหม่ของ Alsace-Champagne-Arden-Lorraine ไปยังแคว้น Bretagne, Normandie และจบที่ Picardie ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแคว้น Hauts de France (เดี๋ยวจะมาอัพเรื่อง Régions ใหม่ให้นะคะ) มาดามต้องนั่งรถตูดบานนานหลายชั่วโมง (12 ชั่วโมงได้ เพราะต้องเอาลูกสาวไปฝากบ้านแม่ย่า เลยยิ่งไกลกว่าเดิม)
มาดามแอบอิจฉาสาว ๆ ที่อยู่ใกล้ทะเลมากเลย ได้มีโอกาสทานอาหารทะเลสด ๆ อยากจะย้ายไปอยู่ที่ Bretagne มากเลยนะตอนนี้
ร้านอาหารทะเล ราคาไม่แพง ใน Bretagne มีมากมาย แต่ขอแนะนำจากร้านที่มาดามแวะชิมละกันค่ะ (ไม่ใช่คนพื้นที่ แต่กระแดะอยากแนะนำ 555) เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่มาท่องเที่ยวที่ Mont Saint Michel และเลยมาแถว Cancale ค่ะ
เริ่มกันที่ร้านแรกเลย ขับเลย Mont Saint Michel มาไม่ไกลมาก ประมาณ 30-40 นาที "Jardin du fruit de mer" ที่เมือง
ภาพบรรยากาศในร้าน Jardin du fruit de mer
ราคาอาหารไม่แพง มาดามสั่ง Plateau apéro marin ค่าเสียหายอยู่ที่ 18 ยูโร และสั่งเพิ่มเจ้ากุ้ง langoustines (ญาติ ๆ lobster แต่ตัวน้อยแบบกุ้ง) สั่งแบบ Plateau เล็กสุด เพราะมาทานตอนบ่ายสามแล้ว หากจัดเต็มคงไม่มีท้องเก็บไว้ทานดินเนอร์ 555
มาเยือนแคว้น Bretagne ก็ห้ามพลาดที่จะลองชิม bolée de cidre ซึ่งเสริฟมาในถ้วย เป็น cidre หรือ cider ในภาษาอังกฤษ ที่มีรสชาติหวาน
คำว่า bolée มาจากคำว่า bol ที่หมายถึง ถ้วยชาม นั่นเอง
Des huîtres creuses (หอยนางรมเปลือกไม่เรียบ) เป็นหอยนางรมมาจากฟาร์มที่เมือง Cancale สด อร่อย ราคาไม่แพง
ร้านนี้มีบริการส่งอาหารทะเลสด ๆ ไปถึงหน้าบ้านด้วย แต่คงสู้มานั่งทานสด ๆ ริมทะเลไม่ได้มั้ง อิอิ ถ้าใครสนใจลองเข้าไปสั่งได้ที่เว็บไซท์ของร้าน http://www.jardindufruitdemer.com/
ถ้ามาช่วงเที่ยงก็สามารถสั่งอาหารจานร้อนได้ หรือจะสั่ง Menu du jour รายการแนะนำประจำวันได้ค่ะ ซึ่งปกติ menu du jour จะราคาประหยัด
พอทานเสร็จก็ออกไปเดินย่อยริมหาดได้ หรือจะไปหาหอยก็ได้นะคะ ถ้าใครจะไปหาหอย อย่าลืมเตรียมบูทยาง และอุปกรณ์หาหอยไปด้วยนะคะ ช่วงนี้ลมแรง อากาศเย็น คงไม่สามารถเดินเท้าเปล่า หรือลากแตะเดินได้ (มาดามไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย รองเท้าเลยเต็มไปด้วยโคลนทราย 555)
มาต่อกันที่ร้านที่ 2 จริง ๆ ก็ไม่ใช่ร้านอาหาร แต่เป็นแผงขายหอยนางรมสดจากฟาร์ม ที่ Cancale ไปช่วงเที่ยงจะหาที่จอดรถยากมาก เพราะคนแห่ไปทานอาหารทะเลและนั่ง terrasse กัน และเป็นที่จอดรถเสียตังค์ payant (ที่จอดรถที่ฝรั่งเศสเป็น payant เกือบหมดแล้ว หาที่จอดฟรีตามสถานที่ท่องเที่ยวไม่มีคร้า อันนี้ก็ไม่ต่างจากที่ไทย ถ้าไปวัดพระแก้วก็ไม่สามารถจอดรถหน้าวัดพระแก้วได้ ต้องไปหาที่จอดรถละแวกนั้นเอา)
มาดูหน้าตาแผงลอยขายหอยนางรมที่ Cancale กัน จะมีประมาณ 7-8 แผง แล้วแต่จะเลือกอุดหนุนคร้า เพราะแต่ละแผงก็นำหอยนางรมจากฟาร์มของตัวเองมาขาย
แวะซื้อแล้วก็กินได้เลย ที่นี่จะขาย 12 ตัว ราคาตามป้าย (อย่าริอาจไปต่อรองราคานะคะ อิอิ) ขนาดหอยนางรมใหญ่สุดเบอร์ 0 พูดง่าย ๆ เรียงลำดับจาก 0 ขึ้นไป ไอ้ที่เราทานกันตามร้านส่วนมากจะได้กินเบอร์ 4 หรือไม่ก็เบอร์ 6
มาดามเลือกที่จะอุดหนุนคุณป้าคร้า ซื้อหอยก็บอกเบอร์ไป คนขายก็จะบริการแกะให้ แล้วใส่ถาด ทานเสร็จก็เดินเอาถาดมาคืนคนขาย ถ้าจะซื้อกลับบ้านก็ได้ แต่ต้องแกะเองนะ สรุปค่าเสียหาย หอยนางรมเบอร์ 0 จำนวน 12 ตัว ราคา 6 ยูโร บวกค่าแกะหอย 1 ยูโร ค่าเลม่อน 50 centimes = 7,50 €/ คน มาดามขอแนะนำว่าให้เตรียมขนมปังฝรั่งเศส เนย เลม่อน น้ำจิ้มซีฟู้ด ทิชชู่ น้ำเปล่า มาด้วย จะอร่อยคุ้ม อิอิ
นอกจากหอยนางรมจากฟาร์ม ก็ยังมีหอยนางรมจากทะล ที่นี่เรียกว่า la savage จะขายเป็นตัวค่ะ ราคา 80 centimes
นั่งกินกันริมหาด ส่วนมากคนจะนั่งตามขั้นบันไดหิน ได้บรรยากาศอีกแบบ โต๊ะนั่งก็มีแค่ตัวเดียวไปช้าก็อด ทานเสร็จก็โยนเปลือกหอยทิ้งที่ชายหาดได้เลย แล้วเก็บถาดพร้อมเปลือกเลม่อนไปให้คนขาย เขามีถุงขยะให้ทิ้งเปลือกเลม่อน
ร้านสุดท้าย ร้าน L'aviron ที่ Cancale เลือกร้านนี้เพราะราคาไม่แพง แค่ไม่ได้บรรยากาศ terrasse ใกล้หาดก็เท่านั้น เอาเข้าจริง ๆ ร้านใหญ่ ๆ ทีมี terrasse ก็ไม่ได้ติดหาด เพราะมีถนนคั่น กินไปก็ดมควันรถไปนิด (รถไม่ได้เยอะแบบบ้านเรา) วันที่ไปทานฝนตกด้วย ไม่สามารถนั่ง terrasse ได้ (ข้ออ้าง)
จัดไปให้หายอยาก Plateau de fruits mer สำหรับ 2 คน ค่าเสียหาย 53 ยูโร ที่อื่นก็ปาไป 90 กว่ายูโรคร้า แถมที่นี่ได้ทานทั้งปู tourteau และปูแมงมุม araignée de mer หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า spider crab เป็นญาติ ๆ กับปูอลาสก้า แต่ตัวเล็กกว่ามาก (ร้านอื่นต้องเลือกเอาระหว่าง tourteau กับ araignée de mer)
ปกติใน Plateau หรือ พลาโต้มาตรฐาน ก็จะมี กุ้ง crevettes กุ้ง langoustines กุ้งสีเทาตัวเล็ก crevettes grises หอยนางรม huîtres หอย bulots (คล้ายหอยหวานบ้านเรา) หอย amandes de mer (เหมือนหอยตลับ) หอย bigorneaux (หอยตัวจิ๋ว เปลือกดำ รสชาติเหมือนหอยทาก จึงมาฉายาว่า l'escagot de mer ในภาษาอังกฤษเรียกว่า winkle สามารถหาเก็บได้ตามซอกหิน ตอนน้ำลด) ปู tourteau ปูแมงมุม araignée de mer มายองเนส mayonnaise เลม่อน citron และ น้ำส้มสายชูใส่หอมแดงซอย Vinaigrette échalote huître (อย่าลืมพกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปด้วย มาดามพลาดไปแล้ว)
เป็นมื้อที่แน่น และจุกมาก แทบอ้วก เพราะมีปู 2 ตัว
ถ้าใครชอบทาน Lobster หรือ Homard ในภาษาฝรั่งเศสก็สั่ง Plateau อันแพงสุดได้เลยคร้า ส่วนมาดามขอเที่ยวแบบสนุกและประหยัด เกรงใจสามี เพราะทานที่ร้านอาหารทุกมื้อเลย คิดเป็นเงินไทยก็นะ แพงจุง แต่นานครั้งไปเที่ยวที ก็ไม่เจ็บตัวมากคร้า
ตบท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อของ Bretagne นั่นคือ Far Breton เนื้อแน่น (แน่นแบบขนมเข่งบ้านเรา แน่นแป้ง) ใส่ลูกพรุน และราดซอสคาราเมล caramel au beurre salé
ใครที่จะวางแพลนไปเที่ยว Mont Saint Michel ลองจัดทริปแบบมาดามได้ Le Mont Saint Michel-Cancale มาดามไม่แนะนำให้หาทานที่ร้านอาหารใน Mont Saint Michel เพราะเป็นร้านขายอาหารให้นักท่องเที่ยว ลองขับรถเลยออกมาหน่อย ราคาก็ไม่แพงด้วย
ไปก่อนคร้า ตอนนี้อยากทานอาหารแซ่บ ๆ
No comments:
Post a Comment