Monday, June 1, 2015

เทคนิคการใช้หนังสือเดินทางเล่มเก่าและเล่มใหม่

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2558 มาดามได้เดินทางกลับไปเที่ยวที่ไทยมาค่ะ เลยถือโอกาสไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่เลย เพราะหนังสือเดินทางที่ถืออยู่จะหมดอายุในปีหน้า และถ้าเดินทางไปต่างประเทศนั้น วันหมดอายุของหนังสือเดินทาง หรือ date of expiry ต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือนค่ะ  และมาดามไม่อยากเดินทางเข้าไปทำที่กรุงปารีส เพราะมาดามอยู่ไกล ถ้าต้องไปทำเล่มใหม่ ต้องนั่ง TGV ไป และอาจต้องค้างคืน  ในเมื่อมาไทยแล้วก็ไปทำเล่มใหม่เลย ใช้เวลาไม่นานด้วย แถมเสียเงินแค่พันเดียว รอแค่ 2-3 วันได้

ปกติมาดามชอบไปทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เพราะมีเคาร์เตอร์เยอะ รอคิวไม่นาน แต่ครั้งนี้ลองไปทำที่ Thanya Park ค่ะ เนื่องจากใกล้บ้านมากกว่า และที่แน่นอน มีที่จอดรถแยะ ถ้าขับไปแจ้งวัฒนะละก็ ไม่รู้จะต้องวนสักกี่รอบถึงจะหาที่จอดรถได้ (แถมมาดามนี่ขับรถเก่งมาก ถอยจอดนี่ปัญหาระดับชาติเลย 555) ที่ธัญญะปาร์คนี่ จะอยู่ที่โซน E ชั้น 2 ถ้าไปจอดรถที่โซน E ต้องวนหาที่จอดรถค่ะ เพราะมีแต่รถของผู้มาขอทำหนังสือเดินทาง ถ้าจอดที่โซนอื่นก็เลือกจอดได้สบาย

ในการขอทำหนังสือเดินทาง หรือ passport นั้น แค่นำบัตรประชาชนไปก็พอค่ะ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ก็ต้องนำใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลไปด้วย และถ้าเป็นการทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เนื่องจากเล่มเก่าหมดอายุ หรือใกล้หมดอายุ ต้องนำเล่มเก่าไปด้วยนะค่ะ ยิ่งถ้าเป็นกรณีให้จัดส่งเล่มใหม่ไปทางไปรษณีย์ ต้องนำไปในวันที่ขอทำเล่มใหม่เลย เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำการยกเลิกเล่มเก่าค่ะ วันที่ไปทำ มาดามลืมเอาเล่มเก่าไปด้วย เจ้าหน้าที่เลยระบุในใบรับเล่มว่าต้องนำเล่มเก่ามาด้วยค่ะ

ปัจจุบัน เราสามารถเลือกว่าจะได้หนังสือเดินทางแบบเร่งด่วน หรือแบบธรรมดา แบบเร่งด่วน คือ สามารถรับเล่มในวันถัดไปได้ เสียค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ถ้าด่วนมากที่สุด คือ รับในวันนั้นเลย เสียแพงหน่อย คือ 3,000 บาท ทั้งนี้ จะมีการกำหนดว่าในแต่ละวันสามารถยื่นขอทำแบบเร่งด่วนได้กี่ราย แนะนำว่าให้ไปแต่เช้าเลยค่ะ
แบบธรรมดาก็ 2 วันถัดไปมารับเล่ม เสีย 1,000 บาท แบบธรรมดาแต่ให้ส่งทางไปรษณีย์ จะมีค่าส่ง 40 บาท 

ในวันรับเล่มต้องนำเล่มเก่าติดไปด้วยค่ะ เพราะอะไรเหรอค่ะ เพราะเราไม่ใช่คนธรรมดา 555 คือ ถ้าในเล่มเก่ามีวีซ่าระยะยาวติดตามสามีอยู่และยังไม่หมดอายุ หรือ วีซ่าอื่นๆ เช่น USA (ต้องไปรับรองที่สถานทูต US อีกด้วย) UK Schengen ที่มีอายุ 10 ปี และยังไม่หมดอายุ ต้องไปยื่นขอรับรองวีซ่าให้สามารถใช้ต่อได้ในหนังสือเดินทางเล่มใหม่ค่ะ โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่กองนิติกรณ์ ณ ช่องที่เขียนว่ารับรอง ถ้าที่ธัญญะปาร์ค จะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ

ขั้นตอนการบันทึกรับรองวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุในเล่มเก่าให้สามารถใช้ต่อไปได้
  • หลังจากรับหนังสือเดินทางเล่มใหม่แล้ว ให้ไปติดต่อที่ช่องรับรอง ของกองนิติกรณ์ โดยแจ้งว่าจะมีวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุในหนังสือเดินทางเล่มเก่า
  • รับใบคำร้องขอนิติกรณ์มากรอก http://www.consular.go.th/main/contents/files/services-20120630-195421-995469.pdf  ใบคำร้องที่กองนิติกรณ์จะมีคำว่า P.P ประทับอยู่ค่ะ  คือ เป็นใบคำร้องสำหรับรับรองวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ
  • เตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอรับรองวีซ่า คือ หนังสือเดินทางเล่มใหม่ หนังสือเดินทางเล่มเก่าพร้อมสำเนา สำเนาหน้าวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ carte de séjour พร้อมสำเนาถ้ามี carte de séjour แล้ว
  • ชำระค่าธรรมเนียม 100 บาท
  • รอรับเล่มคืนประมาณ 1-2 ชั่วโมง และนำใบเสร็จไปยื่นตอนรับเล่มคืน
 หน้าตาของบันทึกรับรองวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ

เทคนิคการใช้หนังสือเดินทางทั้งเก่าและใหม่ คือ การรัดหนังยาง ทำให้เล่มเก่าและใหม่อยู่คู่กันเป็นปาท่องโก๋ ค่ะ เพื่อเราจะได้ไม่ต้องควานหาแต่ละเล่ม  เนื่องจากเราต้องแสดงวีซ่าที่อยู่ในเล่มเก่าให้ ต.ม. ทั้งไทยและเทศดูค่ะ พี่ไทยนะไม่มีปัญหา แต่ปัญหาเริ่มมาตอนที่เปลี่ยนเครื่อง transit สำหรับคนที่ไม่ได้บินตรง มาดามเจอที่ Doha เจ้าหน้าที่ของสายการบินตรวจนาน และถามนู่นนี่ และขอดู carte de séjour (จะมีได้ไง ยื่นขอไปล่วงหน้า 3 เดือนก่อนวีซ่าในเล่มจะหมด ยังไม่ได้ ได้มาแต่ Récépissé de demandé de carte de séjour และไม่ได้พกมาด้วย เพราะวีซ่ายังใช้ได้ถึงมิถุนายน) เพราะเธอไม่อ่านหน้าบันทึกในเล่มใหม่ค่ะ เราต้องพลิกไปที่หน้าวีซ่าเล่มเก่า และอธิบายว่ามันเป็น multiple entry  มาดามเดาว่าถ้ามี carte de séjour แล้วก็ยื่นให้ดูเลย คงไม่ต้องมาเสียเวลาอธิบายแบบนี้ค่ะ

ที่มาของการใช้หนังยางรัดหนังสือเดินทางเล่มเก่ากับเล่มใหม่ เพราะตอนที่มาดามยื่นขอวีซ่าไต้หวัน จะต้องนำเล่มเก่าที่เคยมีวีซ่า Schengen ไปแสดง เจ้าหน้าที่เค้านำหนังยางมารัดให้คู่กันแบบนี้ เลยจำมาใช้คร้า

เมื่อเดินทางถึงประเทศฝรั่งเศส ต.ม. ฝรั่งเศสจะพลิกหาวีซ่าค่ะ เราต้องบอกว่ามีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ส่วนวีซ่าอยู่ในเล่มเก่า แล้วเค้าจะเปิดดู และประทับตราให้ในเล่มเก่า บนหน้าที่คู่กับวีซ่า จากที่สังเกตุ ไม่มีใครสนใจอ่านหน้าบันทึกรับรองในเล่มใหม่เลย ดังนั้น ต้องพกทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่ไปแบบนี้ตลอดเวลาค่ะ


No comments:

Post a Comment